เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาได้เกิดข่าวฉาวขึ้นกับวงการประกวดนางงามระดับโลก เมื่อ เมย์ เมียต โน เจ้าของตำแหน่ง Miss Asia Pacific ได้เกิดปัญหาความขัดแย้งกับกองประกวด Miss Asia Pacific World Organization (MAPWO) ซึ่งทีมงานเป็นคนเกาหลีใต้ทั้งหมด และเป็นเวทีประกวดนางงามระดับนานาชาติซึ่งจัดกันในเกาหลีใต้ ถึงขั้นที่สาวพม่าวัย 16 ปี ได้ตัดสินใจกลับประเทศบ้านเกิดไปพร้อมกับมงกุฏราคา 100,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมแถลงข่าวโจมตีกองประกวดในหลายจุด และในเวลาเดียวกันกองประกวดก็ตอบโต้ด้วยการแฉว่าสาวชาวพม่าก็มีพฤติกรรมที่ ไม่เหมาะสมมากมาย โดยหนึ่งในข้อกล่าวหาที่ เมย์ เมียต โน เผยก็คือเรื่องที่ว่าเธอได้ถูกกดดัน ให้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักธุรกิจใหญ่รายหนึ่ง โดยเธอให้ข่าวว่าในเดือน ส.ค. มีเอเยนซีแห่งหนึ่งได้เข้ามาเสนอให้เธอทำงานเพลง แต่สุดท้ายเอเยนซีแห่งนี้กลับพยายามโน้มน้าวให้เธอยอมมีอะไรกับนักธุรกิจราย หนึ่ง ด้วยข้ออ้างว่าเขาจะช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องงานเพลงของเธอได้ ซึ่งเธอได้ปฏิเสธไป และยังรู้สึกไม่พอใจอย่างรุนแรงด้วย ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า "ชอย" วัย 48 ปี หัวหน้าเอเยนซีจอมฉาวได้สารภาพกับกองประกวดว่าเขาเป็นคนที่พยายามบีบให้สาว ชาวพม่ายอมให้บริการทางเพศนักธุรกิจใหญ่รายหนึ่งจริงๆ โดยเขาพยายามโน้มน้าวเธอไปว่า นักธุรกิจรายนี้จะช่วยเหลือด้านเงินทุนสำหรับการฝึกฝนเตรียมตัวของเธอในการ เข้าวงการบันเทิง ซึ่งทาง MAPWO ได้ตัดสินใจรายงานเรื่องนี้ นอกจากนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกทาง MAPWO ก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ชอย ยังเซ็นสัญญากับสาวงามอีกหลายคนด้วย อย่างไรก็ตามยังไม่มีคำยืนยันว่าข้อกล่าวหาอื่นๆ ของ เมย์ เมียต โน ต่อกองประกวดเป็นความจริงหรือไม่ นอกจากนั้นก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าทาง MAPWO จะยังดำเนินคดีทางกฎหมายกับสาวงามชาวพม่าต่อไปอีกหรือไม่ เพราะนอกจากประเด็นขายตัวแล้ว เมย์ เมียต โน กับกองประกวด Miss Asia Pacific ยังให้ข่าวโจมตีกันหลายเรื่อง โดยฝ่ายสาวงามชาวพม่าอ้างว่าเธอยังถูกบีบให้ทำศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอก นอกจากนั้นก็ยังไม่เคยได้รับเงินจากการถ่ายโฆษณาเลยด้วย ส่วนกองประกวดก็อ้างว่า เมย์ เมียต โน มีพฤติกรรมโกหก และทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ โดยเธอได้โกหกกองประกวดว่าอายุ 18 ปี ทั้งๆ ที่เธออายุแค่ 16 ปี เท่านั้น สุดท้ายกองประกวดยังได้ฟ้องร้องเธอในข้อหาลักทรัพย์หลัง เมย์ เมียต โน นำมงกุฏกลับบ้านไปโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย จวกยับ! Miss Asia Pacific World ไร้มาตรฐาน-ส่อละเมิดทางเพศ กองประกวดออกแถลงการณ์โต้กลับนางงามพม่า! ยันโกหกซ้ำซาก ปลด! นางงามพม่าพ้นตำแหน่ง “Miss Asia Pacific World” กองประกวดจวกยับพฤติกรรมไม่เหมาะสม นางงามพม่าโต้กองประกวด Miss Asia Pacific World! แฉโดนสั่งทำหน้าอก |
||||
|
||||
|
วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2557
ยืนยันนางงามพม่าพูดความจริง! เอเยนซีเกาหลีบังคับมีเซ็กซ์กับนักธุรกิจ
“อัครพงศ์ปรีชา” สูงสุดคืนสู่สามัญ
|
“น้องเฟิร์ส” เจ๋ง! สาวไทยคนแรก คว้ามงกุฏ Miss Intercontinental หลังรอคอยมานาน 43 ปี!
กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งสำหรับเวทีขาอ่อนของเมืองไทย หลังจากที่ “เฟิร์ส ภัทราพร หวัง” ตัวแทนสาวไทยจากเวที “มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2014” สามารถคว้ามงกุฎและสายสะพายในการประกวดรอบตัดเชือก Miss Intercontinental 2014 ที่ Maritim Hall, Maritim Hotel ประเทศเยอรมันเมื่อคืนวานนี้ (4 ธันวาคม 2557) โดยเฟิร์สยังถือว่าเป็นนางงามคนแรกที่พิชิตใจกรรมการจนสามารถคว้า มงกุฎบนเวทีดังกล่าวมาฝากแฟนๆ ได้เป็นผลสำเร็จ หลังจากรอคอยมายาวนานถึง 43 ปี โดยงานนี้สาวงามจากคิวบาคว้ารองอันดับ 1 และสาวงามจากฟิลิปปินส์คว้ารองอันดับ 2 ไปครอง |
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
หยุดเมาธ์นะจ๊ะ "ญาญ่า" แก้ข่าวโดน "ณเดชน์" จับหน้าอกถ่ายเเฟชั่นที่มัลดีฟส์
ใครกันช่างเมาธ์ถึงคู่ขวัญสุดฟินเเห่งยุค "ณเดชน์ คูกิมิยะ" เเละสาว "ญาญ่า อรัสยา" ถึงเมื่อครั้งไปถ่ายเเฟชั่นสุดสวีทไกลมัลดีฟส์ ว่าช็อตหนึ่งในเเฟชั่นความหวานนั้น คล้ายกับว่ามือของหนุ่มณเดชน์ อยู่ในตำแหน่งที่ล่อแหลมมากเหมือนจับโดนหน้าอกของสาวญาญ่าเข้า!!
งานนี้สาวญาญ่า ก็รีบออกมาชี้แจงว่าไม่ใช่ น่าจะเป็นมุมมากกว่า พร้อมกับยืนยันว่าไม่โดนหน้าอกเเน่นอน
"ไม่โดนค่ะ เป็นรูปที่อุ้มกัน น่าจะได้เห็นในหนังสือ เป็นรูปที่ถ่ายเล่นแต่จะเอาไปใส่ในหนังสือด้วย หนูใส่จั๊มพ์สูทมือสอดเข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าโดนหนูก็คงพูดอะไรแล้วล่ะ คนจับผิดเป็นเรื่องปกติ ขนาดหนูดูรูปคนอื่นหนูยังซูมแล้วซูมอีก (ยิ้ม)"
เอ้า ทราบเเล้วหยุดเมาธ์กันนะจ๊ะ
ค้นบ้าน"พงศ์พัฒน์" ยึดเงินสด-พระเครื่อง-โฉนดที่ดิน มูลค่าร่วมหมื่นล้าน ผบ.ตร.สั่งออกจากราชการไว้ก่อน
|
|
ผบ.ทบ.' สั่งล่าไอ้โม่งโปรยใบปลิว โจมตี คสช.
อุดมเดช สั่งล่าไอ้โม่งโปรยใบปลิว โจมตี คสช. หวั่นเกิดลอกเลียนแบบ
ขยายวงกว้าง ไม่ติดใจ นศ.ชู 3 นิ้ว วอนผู้ปกครอง-อาจารย์ ทำความเข้าใจ
วันที่ 23 พ.ย. ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนายทหารที่เสีย ชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ถึงกรณีที่มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลว่า ตนได้รับรายงาน ขณะนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ถือเป็นข้อคิดเห็นของคนที่ยังไม่เข้าใจต่อการทำงานของรัฐบาล แต่อยากฝากไปว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ให้ช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องที่ผ่านมา จริงๆแล้วการดำเนินงานของรัฐบาลเป็นไปตามขั้นตอนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้ระบุไว้ เพราะฉะนั้นทุกส่วนน่าจะเข้าใจและช่วยกันประคับประคองเหตุการณ์ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่ต้องให้ความสนใจว่ามีความคิดเห็นอะไรอย่างไร จากการตรวจสอบบางจุดก็เป็นเรื่องของนักศึกษา ตรงนี้ก็ต้องดูว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องลึกลงไปหรือไม่
"ถ้าหากเป็นเยาวชน นิสิต นักศึกษา ก็ฝากไปยังผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ได้ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ถือว่าเป็นวัยที่บริสุทธิ์ เพราะนิสิต นักศึกษา อยู่ในวัยที่น่าจะได้รับการชี้แจง คำแนะนำ เพราะผมอยากให้น้องๆ นักศึกษา มีความเข้าใจที่ถูกต้อง อยากให้ช่วยกันประคับประคองให้การดูแลชาติของรัฐบาลเป็นไปตามขั้นตอน และสุดท้ายเราก็จะมีรัฐบาลที่ถูกต้องในโอกาสต่อไป สมกับที่ทุกคนได้หวังไว้ ทางรัฐบาล ทหาร และผมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก อยากให้เป็นเช่นนั้น"
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า เป็นความปรารถนาดี ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง ต้องการให้เกิดการต่อต้านที่ค่อยเป็นค่อยไปและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น อยากให้กลับไปคิดดูว่า ท่านกำลังทำให้ประเทศชาติไม่สามารถยืนหยัดในประชาคมโลกได้ และประเทศไทยจะถอยหลังไปอีก ในส่วนนี้ก็คงต้องมีการติดตามสืบสวน สืบหาและใครก็ตามที่อยู่ในข่ายที่จะทำความผิดในด้านกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่า ในส่วนของภาพยนตร์ “ฮังเกอร์เกมส์” ที่กำลังเข้าฉายอยู่ จนทำให้นักศึกษานำมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก ถือเป็นการแสดงออกเล็กน้อย แต่ก็ไม่เหมาะสม และจะเป็นการเลียนแบบอย่างไรต่อไป ต้องช่วยกันดูแล ทำความเข้าใจเดินหน้าด้วยดี อย่าให้สะดุด และขยายวงกว้างออกไปก็จะเกิดความเรียบร้อย เมื่อถามว่า มีข้อมูลว่าการโปรยใบปลิวมีคนอยู่เบื้องหลังจริง
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ว่าจะมีเช่นนั้นหรือไม่ ก็อยากจะขอร้องว่าอย่าทำเลย เพราะตนต้องเข้ามาดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กก็ตาม เพราะตนให้ความสนใจและต้องดูแลในรายละเอียดต่อไป เมื่อถามต่อว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดการลอกเลียนแบบจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จึงขอร้องกันให้ทำความเข้าใจ รัฐบาลได้ประคับประคองสถานการณ์จนทุกคนรู้สึกว่าประเทศมีความปกติทุกอย่าง แล้วจะทำให้ความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นมาอีกทำไม
เมื่อถามว่า นายกฯ เตรียมจะลงพื้นที่ภาคเหนือ มีการดูแลความปลอดภัยอย่างไร เพราะมีการพ่นสเปรย์ต่อต้าน รวมถึงการชู 3 นิ้ว ในระหว่างที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ที่ จ.เชียงราย พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ได้กำชับไปยัง พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ดูแลความเรียบร้อยแล้ว
วันที่ 23 พ.ย. ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพนายทหารที่เสีย ชีวิตจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ถึงกรณีที่มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลว่า ตนได้รับรายงาน ขณะนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ถือเป็นข้อคิดเห็นของคนที่ยังไม่เข้าใจต่อการทำงานของรัฐบาล แต่อยากฝากไปว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ให้ช่วยกันทำความเข้าใจในเรื่องที่ผ่านมา จริงๆแล้วการดำเนินงานของรัฐบาลเป็นไปตามขั้นตอนตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้ระบุไว้ เพราะฉะนั้นทุกส่วนน่าจะเข้าใจและช่วยกันประคับประคองเหตุการณ์ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงแต่ต้องให้ความสนใจว่ามีความคิดเห็นอะไรอย่างไร จากการตรวจสอบบางจุดก็เป็นเรื่องของนักศึกษา ตรงนี้ก็ต้องดูว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องลึกลงไปหรือไม่
"ถ้าหากเป็นเยาวชน นิสิต นักศึกษา ก็ฝากไปยังผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ได้ช่วยกันทำความเข้าใจด้วย ถือว่าเป็นวัยที่บริสุทธิ์ เพราะนิสิต นักศึกษา อยู่ในวัยที่น่าจะได้รับการชี้แจง คำแนะนำ เพราะผมอยากให้น้องๆ นักศึกษา มีความเข้าใจที่ถูกต้อง อยากให้ช่วยกันประคับประคองให้การดูแลชาติของรัฐบาลเป็นไปตามขั้นตอน และสุดท้ายเราก็จะมีรัฐบาลที่ถูกต้องในโอกาสต่อไป สมกับที่ทุกคนได้หวังไว้ ทางรัฐบาล ทหาร และผมในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการทหารบก อยากให้เป็นเช่นนั้น"
พล.อ.อุดมเดช กล่าวต่อว่า เป็นความปรารถนาดี ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง ต้องการให้เกิดการต่อต้านที่ค่อยเป็นค่อยไปและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้น อยากให้กลับไปคิดดูว่า ท่านกำลังทำให้ประเทศชาติไม่สามารถยืนหยัดในประชาคมโลกได้ และประเทศไทยจะถอยหลังไปอีก ในส่วนนี้ก็คงต้องมีการติดตามสืบสวน สืบหาและใครก็ตามที่อยู่ในข่ายที่จะทำความผิดในด้านกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการ
เมื่อถามว่า ในส่วนของภาพยนตร์ “ฮังเกอร์เกมส์” ที่กำลังเข้าฉายอยู่ จนทำให้นักศึกษานำมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรมาก ถือเป็นการแสดงออกเล็กน้อย แต่ก็ไม่เหมาะสม และจะเป็นการเลียนแบบอย่างไรต่อไป ต้องช่วยกันดูแล ทำความเข้าใจเดินหน้าด้วยดี อย่าให้สะดุด และขยายวงกว้างออกไปก็จะเกิดความเรียบร้อย เมื่อถามว่า มีข้อมูลว่าการโปรยใบปลิวมีคนอยู่เบื้องหลังจริง
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ว่าจะมีเช่นนั้นหรือไม่ ก็อยากจะขอร้องว่าอย่าทำเลย เพราะตนต้องเข้ามาดูแล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กก็ตาม เพราะตนให้ความสนใจและต้องดูแลในรายละเอียดต่อไป เมื่อถามต่อว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะเกิดการลอกเลียนแบบจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ แต่ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น จึงขอร้องกันให้ทำความเข้าใจ รัฐบาลได้ประคับประคองสถานการณ์จนทุกคนรู้สึกว่าประเทศมีความปกติทุกอย่าง แล้วจะทำให้ความไม่เรียบร้อยเกิดขึ้นมาอีกทำไม
เมื่อถามว่า นายกฯ เตรียมจะลงพื้นที่ภาคเหนือ มีการดูแลความปลอดภัยอย่างไร เพราะมีการพ่นสเปรย์ต่อต้าน รวมถึงการชู 3 นิ้ว ในระหว่างที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ที่ จ.เชียงราย พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ได้กำชับไปยัง พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ดูแลความเรียบร้อยแล้ว
คุมตัว “พงศ์พัฒน์” และพวก ฐานทำเสื่อมพระเกียรติแสวงหาผลประโยชน์ เผย “อัครวุฒิ์” พยายามฆ่าตัวตาย 3 ครั้งก่อนกระโดดตึก
|
|
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)