ศูนย์ข่าวภูเก็ต -
กลั่นน้ำตาแห่งความดีใจเอาไว้ไม่อยู่
เมื่อสาวใหญ่ชาวอังกฤษที่ออกเดินทางตามหาแม่คนไทย
หลังจากพลัดพรากกันมาเกือบ 54 ปี จนได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรกที่ภูเก็ต
เจ้าตัวเผยรู้ว่ามีแม่เป็นคนไทยมาประมาณ 20-30 ปีแล้ว
แต่ไม่รู้จะตามหาอย่างไร จนกระทั่งมีโอกาสเดินทางมาเมืองไทยครั้งแรกเมื่อ
ก.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้สอบถามข้อมูลจากพนักงานโรงแรมที่เกาะพะงัน
จนได้รับการช่วยเหลือประสานงานหาข้อมูลให้
และตัดสินใจเดินทางมาอีกครั้งเพื่อตามหาแม่ซึ่งโชคดีที่หาแม่จนเจอท่ามกลาง
ความช่วยเหลือของพนักงานโรงแรม และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่พังงา
|
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 พ.ย.) นายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา และนายวัย นุ้ยสง่า
ได้นำนาง Kimbeeley Ferreivg ชาวอังกฤษ
ที่ออกตามหามารดาชาวไทยหลังพลัดพรากกันเกือบ 54 ปี
ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับสามี คือ นาย Carlos Alberto Ferreivg ชาวอังกฤษ
มาพบกับ นางยกเลื่อน จันทร์แก้ว อายุ 79 ปี ที่บริเวณร้านขายอาหารตามสั่ง
ซอยหัชนา 2 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากสืบทราบ ว่า นางยกเลื่อน
เป็นมารดาของนาง Kimbeeley Ferreivg ชาวอังกฤษ
|
วินาทีแรกที่ทั้ง 2
พบหน้ากันก็มองหน้ากันอยู่พักหนึ่งด้วยความตะลึง
และโผเข้ากอดด้วยความดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ หลังจากทั้ง 2 คน
ก็ได้พูดจาทักทายกันเป็นภาษาอังกฤษ
และมีการสอบถามถึงความเป็นอยู่ระหว่างกัน
โดยตลอดเวลาที่พูดคุยกันนั้นจะมีการมองหน้า และสวมกอดกันตลอดเวลา
หลังจากนั้น นาง Kimbeeley Ferreivg ได้นำสูจิบัตร หรือใบแจ้งเกิดมาให้
นางยกเลื่อน ดู ซึ่งในใบแจ้งเกิดระบุว่า ด.ญ.ตุ๊กตา จันทร์แก้ว
คลอดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.2503 ที่สถานีอนามัยตะกั่วป่า จ.พังงา
และได้มีการพูดคุยกันถึงสาเหตุของการพลัดพราก
|
โดย นางยกเลื่อน ได้บอกแก่นาง Kimbeeley Ferreivg ว่า
รูปร่างหน้าตาของของนาง Kimbeeley Ferreivg เหมือนกับพ่อที่แท้จริง
ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ที่มาทำงานเป็นผู้จัดการเรือขุดแร่ที่ตะกั่วป่า
แต่นาง Kimbeeley Ferreivg กลับบอกว่า
แก้มของตัวเองเหมือนกับแก้มของนางยกเลื่อน ต่างก็ยกมือจับแก้มกันไปมา
ทำให้ทั้งผู้สื่อข่าว และญาติๆ รวมทั้งคนรู้จักต่างก็ตื่นตันใจไปกับทั้ง 2
คนด้วยที่ได้มาเจอกัน หลังจากพลัดพรากกันไปนานถึง 54 ปี
|
|
|
นางยกเลื่อน
ได้เล่าให้ลูกสาวฟังถึงสาเหตุที่ต้องยกลูกให้เป็นลูกบุญธรรมของชาวต่างชาติ
ว่า นาง Kimbeeley Ferreivg
เป็นลูกของตนที่เกิดกับผู้จัดการเรือขุดแร่ชาวออสเตรเลีย
ซึ่งตอนนั้นตนได้ไปทำงานเป็นแม่บ้านไห้แก่ฝรั่งคนดังกล่าว จนมีความชอบพอ
และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ.ตุ๊กตา หรือนาง Kimbeeley Ferreivg
ในปัจจุบัน โดยสามีของตนมีภรรยาอยู่แล้ว จึงต้องให้พี่ชายคือ นายเวศ
จันทร์แก้ว รับเป็นพ่อของ ด.ญ.ตุ๊กตาแทน หลังจากลูกอายุได้ 6 เดือน
มาดามคิม ซึ่งเป็นภรรยาของวิศวกรคุมเรือขุดแร่ที่เป็นเพื่อนกับสามี ขอรับ
ด.ญ.ตุ๊กตา ไปเป็นลูก ตอนนั้นตนก็มาคิดดูแล้วว่าตนเป็นคนยากจน
ประกอบกับสามีฝรั่งมีภรรยาอยู่แล้ว
คงไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกสาวให้อยู่อย่างสบายได้
จึงได้ตัดสินใจยกลูกให้แก่ครอบครัวชาวต่างชาติดังกล่าว ซึ่งทั้ง 2
คนไม่มีลูก และยืนยันว่าจะเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
ซึ่งตนไม่กังวลเพราะระหว่างที่ทำงานอยู่ด้วยกัน 2 สามีภรรยา รัก ด.ญ.ตุ๊กตา
เหมือนลูกอยู่แล้ว หลังจากยกลูกให้แก่ 2 สามีภรรยา ทั้ง 2
คนก็ได้พาลูกสาวออกจากประเทศไทย
ซึ่งตนทราบแต่เพียงว่าไปทำงานต่อที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
และไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย เพราะไม่รู้จะไปสอบถามจากใคร
ส่วนตนหลังจากออกจากงานก็เดินทางไปทำงานหลายๆ
ที่จนมาอยู่ที่ภูเก็ตในปัจจุบัน
|
นางยกเลื่อน กล่าวต่อไปว่า เมื่อวานนี้ (20 พ.ย.) ได้รับแจ้งจากคนประสานงาน
ว่า ลูกสาวจะมาหา ซึ่งตอนนั้นตนก็งงๆ เพราะที่ผ่านมา
ตนไม่เคยบอกใครว่าตนมีลูกสาว
ยกเว้นลูกชายคนโตที่ทราบอยู่ก่อนแล้วว่ามีน้องสาวต่างพ่อ 1 คน
ซึ่งตนคิดว่าเป็นการโทร.มากลั่นแกล้งกัน
แต่เมื่อคนประสานงานถามชื่อว่าตนชื่อยกเลื่อน และมีลูกชื่อ ด.ญ.ตุ๊กตา
ใช่หรือใหม่ ตนก็ตอบว่าใช่ ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นการหลอกกันแล้ว
น่าจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งไม่คิดว่าจะได้เจอลูกที่พลัดพรากจากกันไปถึง 54 ปี
ตอนนั้นดีใจมาก นั่งคิดว่าลูกจะหน้าตาเป็นอย่างไร
|
จนกระทั่งมีการนัดเจอกันวันนี้ (21 พ.ย.) เมื่อตนเห็นลูกเดินลงจากรถ
ตนก็คิดว่าใช่แน่นอน เพราะหน้าตา
และรูปร่างของเขาละม้ายคล้ายกับพ่อชาวออสเตรเลีย
ซึ่งการได้เจอลูกครั้งแรกในรอบ 54 ปี เป็นเรื่องที่ตนรู้สึกดีใจมาก
เพราะคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว
|
ด้านนาง Kimbeeley Ferreivg กล่าวว่า ตนทราบว่ามีแม่คนไทยมาประมาณ
20-30 ปี ที่ผ่านมา
เนื่องจากแม่ที่เลี้ยงดูได้แจ้งให้ทราบก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต
รวมทั้งมอบหลักฐานต่างๆให้
ซึ่งหลังจากทราบตนก็คิดที่จะออกติดตามหาแม่ที่เป็นคนไทยมาโดยตลอดแต่ไม่รู้
ว่าจะตามหาอย่างไร จนกระทั้งแต่งงาน และมีลูกก็ได้ใช้ชื่อของแม่คนไทย
และแม่ที่เลี้ยงดูมาตั้งเป็นชื่อของลูกสาวเพื่อระลึกถึง
และเมื่อมีโอกาสเดินทางมาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
ตนก็ตั้งใจที่จะมาตามหาแม่ โดยติดต่อการเดินทางผ่านเอเยนต์ทัวร์
ซึ่งตอนนั้นตนเข้าใจว่าเกาะพะงัน กับพังงา เป็นที่เดียวกัน
จึงเดินทางไปที่เกาะพะงัน เมื่อไปถึงโรงแรมที่พัก คือ โรงแรมสันธิยา
เกาะพะงันรีสอร์ท แอนด์สปา ก็สอบถามพนักงานโรงแรมคือ น.ส.กิ่งแก้ว
อยู่ภักดี ว่ารู้จักสถานที่ตามใบแจ้งเกิดของตนหรือเปล่า
แต่คำตอบที่ได้รับคือ อยู่คนละจังหวัด
ทำให้ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เดินทางไปผิดจังหวัด
ทำให้ความหวังที่จะได้พบแม่เลือนรางลง
|
แต่ก็โชคดีที่ น.ส.กิ่งแก้ว อยู่ภักดี ให้ความช่วยเหลือ
และติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ
ให้หลังจากทราบว่าตนเองต้องการเดินทางมาตามหาแม่ที่พลัดพรากจากกัน
โดยให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ทั้งสอบถามไปที่อำเภอ เทศบาล
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จนกระทั่งตนเดินทางกลับไปแล้วก็ยังมีการประสานติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง
และตนตัดสินใจเดินทางมาตามหาแม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ตนได้เดินทางมาที่
จ.พังงา เลย และประสานให้ น.ส.กิ่งแก้ว อยู่ภักดี มาช่วยเหลือ
ซึ่งเขาก็ยอมลางานมาเพื่อช่วยตนตามหาแม่
รวมทั้งประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ในการช่วยกันตามหา
และโชคดีที่ครั้งนี้ตนสามารถตามหาแม่จนเจอ รู้สึกดีใจมากๆ
ที่ได้พบแม่ที่จากกันมานาน
|
ด้าน น.ส.กิ่งแก้ว กล่าวว่า ตนเจอกับนาง Kimbeeley Ferreivg
เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา หลังจากทราบว่าเขามาตามหาแม่
แต่เดินทางมาผิดจังหวัดซึ่งตอนนั้นเขาค่อนข้างจะเสียใจมาก
เพราะเขาตั้งใจที่จะเดินทางมาตามหา จึงรู้สึกสงสาร
และช่วยติดต่อประสานงานให้ ตอนแรกโทร.ไปสอบถามที่อำเภอตะกั่วป่า
ทางอำเภอบอกว่า ตำบลบางม่วงนั้นอยู่ในเขตเทศบาล
แนะนำให้ติดต่อไปที่เทศบาลเพื่อแจ้งข้อมูล แต่ทางเทศบาลบอกว่า
ข้อมูลบางอย่างเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้
ต้องให้เจ้าตัวมาติดต่อเท่านั้น จึงได้มีการประสานกลับไปที่นาง Kimbeeley
Ferreivg หลังจากนั้นก็มีการติดต่อเรื่อยมา
|
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ตนก็ได้รับการประสานจากนาง Kimbeeley Ferreivg
ว่าจะเดินทางมาตามหาแม่อีกครั้ง ขอให้ตนลางานมาพบกันที่จังหวัดพังงา
ตนก็เลยแจ้งให้หัวหน้างานทราบ และขอลางานมา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-19
พ.ย.เพื่อเดินทางมาช่วย Kimbeeley Ferreivg ตามหาแม่ ซึ่งตลอดทั้ง 3 วัน
ไปติดต่อทุกที่จนได้ข้อมูลมามากพอสมควร
และโชคดีที่ทางเทศบาลประสานไปทางนายเชิดชาย ปัทมยุตานนท์
ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อให้ตนไปหา
และสอบถามข้อมูล ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านเป็นอย่างดี
มีการไปสอบถามคนในพื้นที่เกือบทุกบ้านว่า รู้จักนางยกเลื่อน หรือไม่
จนกระทั่งได้ข้อมูลว่านางยกเลื่อน ย้ายมาอยู่แถวเกาะสิเหร่ ต.รัษฎา
จ.ภูเก็ต วันที่ 19 พ.ย. จึงเดินทางเข้าภูเก็ต แต่ตามหาไม่เจอ
ก็กลับไปตั้งหลักที่พังงาอีกครั้ง ส่วนตนก็ต้องเดินทางกลับไปทำงานต่อ
แต่ก็ได้ผู้ใหญ่บ้านที่ช่วยประสานตามหาจนทราบว่า นางยกเลื่อน อยู่ที่ไหน
และตามหาจนพบ ซึ่งตนรู้สึกดีใจมากที่แม่ลูกได้พบกัน
|
|
นาง Kimbeeley Ferreivg ตอนอายุ 12 ปี ถ่ายกับพ่อแม่บุญธรรม |
|
|
ขณะที่ นายเชิดชาย กล่าวว่า ตัวเองได้รับการประสานจากเทศบาล
และอำเภอตะกั่วป่าให้ช่วยตามหานางยกเลื่อน หลังจากได้รับแจ้งก็ออกตามหา
จนพบญาติของนางยกเลื่อน ที่บ้านบางม่วง อ.ตะกั่วป่า และทราบว่านางยกเลื่อน
ย้ายมาอยู่ที่ภูเก็ต โดยมีลูกชายเป็นไต๋เรือชื่อตุ่ม
พอรู้แบบนั้นตนก็เริ่มมีความหวัง
เพราะตนก็มีญาติที่เป็นไต๋เรืออยู่ที่ภูเก็ต ก็คิดว่าไม่น่าจะตามหายาก
ก็เลยมีการประสานงานต่อกันมาเป็นทอดๆ จนมาเจอกับนายวัย นุ้ยสง่า
ซึ่งเป็นคนบ้านบางม่วง จ.พังงา แต่มาอาศัยอยู่ที่ภูเก็ต
และรู้จักกับกลูกของนางยกเลื่อน และนายวัย อาสาพาหานางยกเลื่อน
ที่ร้านอาหารตามสั่งของลูกชายนางยกเลื่อน จนกระทั่งได้มาพบกันในวันนี้
ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจที่สามารถช่วยเหลือตามหาให้แม่ลูกได้พบกัน
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น