วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

เจ๋ง! “อแมนด้า” ผงาดคว้าทองปั่นบีเอ็มเอ็กซ์

เจ๋ง! “อแมนด้า” ผงาดคว้าทองปั่นบีเอ็มเอ็กซ์
        อแมนด้า คาร์ น่องเหล็กสาวลูกครึ่งไทย-อเมริกา โชว์ฟอร์มสมราคาเต็งแชมป์ หลังปั่นเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 1 ทั้ง 3 โมโต คว้าเหรียญทองเพิ่มให้กับทัพไทยได้สำเร็จ ขณะที่ ดวงกมล ทองมี เข้าเส้นชัยอันดับสุดท้าย พลาดบวกเหรียญเพิ่มในศึกอินชอนเกมส์
      
       การแข่งขันจักรยาน ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ มีน่องเหล็กสาวไทย ลงแข่งขัน 2 คน ประกอบด้วย อแมนด้า คาร์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกา มืออันดับ 13 โลก และ ดวงกมล ทองมี
      
       ผลการแข่งขันปรากฏว่า น่องเหล็กสาวไทย โชว์ฟอร์มร้อนแรง ปั่นเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 37.328 นาที และโมโตแรก ทำเวลา 37.392 นาที, โมโตสอง 37.178 นาที และ โมโตสาม 37.159 นาที คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 9 สำหรับทีมชาติไทย ขณะที่ ดวงกมล ทองมี เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 8 ด้วยเวลา 43.050 นาที โมโตแรก ทำเวลา 43.416 นาที, โมโตสอง 42.610 นาที และ โมโตสาม 44.031 นาที
      
       โดยเหรียญเงิน ตกเป็นของ ลู่ หยาน จากจีน ทำเวลา 37.956 นาที โมโตแรก ทำเวลา 37.764 นาที, โมโตสอง 38.239 นาที และ โมโตสาม 38.700 นาที และเหรียญทองแดง เป็น เป็ง นา จากจีน เช่นเดียวกัน เวลา 39.481 นาที โมโตแรก ทำเวลา 39.869 นาที, โมโตสอง 38.935 นาที และ โมโตสาม 38.334 นาที

ทนไม่ไหว! เพจหลัก “อินชอน” ขู่ฟ้องแฟนไทยป่วน

ทนไม่ไหว! เพจหลัก “อินชอน” ขู่ฟ้องแฟนไทยป่วน
        เฟซบุ๊กแฟนเพจ “2014 Incheon Asian Games” ซึ่งเป็นเพจหลักของการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ออกแถลงการณ์ขู่เกรียนไทย โพสต์ข้อความไม่เหมาะสมจะดำเนินการทางกฎหมาย และจะแบนทันที
      
        หลังจากที่แฟนบอลไทย เข้าไปถล่มแฟนเพจของ การแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากไม่พอใจคำตัดสินของกรรมการ ในการแข่งขัน ฟุตบอล ที่ เกาหลีใต้ เอาชนะ ไทย ไป 2-0 ซึ่งมีลูกกังขาอยู่หลายจังหวะ
      
        ล่าสุด แฟนเพจ “2014 Incheon Asian Games” ซึ่งเป็นเพจหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน ได้ออกแถลงการณ์เรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำตัดสิน ซึ่งหากมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติจะเข้ามาตรวจสอบทันที
      
        “เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 สนับสนุนการเล่นแบบแฟร์เพลย์ ผลจากการแข่งขันและคำตัดสินเป็นไปตาม หลักการและคำตัดสินของกรรมการ ซึ่งหากเราตรวจเจอว่ามีอะไรผิดปกติทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติจะเข้ามา ตรวจสอบและมีประกาศอย่างเป็นทางการ” แถลงการณ์จาก เพจ “2014 Incheon Asian Games”
      
        ทั้งนี้ เพจ 2014 Incheon Asian Games ยังขู่อีกว่า ทุกอย่างที่คอมเมนต์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความ หรือ รูปภาพ จะมีการดำเนินการทางกฎหมาย และหากมีใครโพสต์ในลักษณะที่ไม่เหมาะสมจะแบนออกจากเพจทันที
      
        “สำหรับผู้ที่เข้ามาในเพจนี้ ตัวหนังสือและรูปภาพจะมีผลในทางกฎหมาย และเรามีสิทธิในการลบคอมเมนต์เหล่านั้น และที่มากไปกว่านั้น กรุณาทำตามคำแนะนำของเราเพื่อการอยู่ในส่วนรวม ซึ่งหากใครทำกระทำการที่ไม่เหมาะสมเราจะดำเนินการทางกฎหมาย และแบนออกจากเพจทันที” แถลงการณ์จาก เพจ “2014 Incheon Asian Games”
      

เป๊ะเหมือนเดิม! "ปีใหม่ สุมนรัตน์" โชว์บิกินี่ อวดหุ่นเก๋ริมทะเล


























    กลับมาผอมเพรียวอีกครั้งเเล้ว สำหรับนักเเสดงสาวเซ็กซี่  "ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์"   ภรรยาคนสวยของป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล ที่ ก่อนหน้านี้เจ้าตัวดูอวบอ้วนขึ้นจนผิดหูผิดตา ล่าสุดเหมือนหุ่นจะเข้าที่เข้าทาง เเถมรูปร่างยังฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้นกว่าเดิม  เจ้าตัวก็เลยขอจัดเต็มในชุดบิกินีอวดหุ่นเซ็กซี่ ท้าแดด ท้าลม  พร้อมโชว์รอยสักเก๋ๆ ในช่วงเวลาพิเศษ  ลงอินสตาแกรมให้เเฟนๆได้หายคิดถึงกัน

http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14121430551412143094l.jpg

http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14121430551412143102l.jpg

http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14121430551412143133l.jpg

“ใบเตย” โดนอีก เพจแอนตี้ตั้งฉายาใหม่ “อาชญากรแฟชั่น”

“ใบเตย” โดนอีก เพจแอนตี้ตั้งฉายาใหม่ “อาชญากรแฟชั่น”
        “ใบเตย อาร์สยาม” โดนวิจารณ์แหลกแต่งตัวไม่ผ่าน เพจแอนตี้ตั้งฉายาใหม่ “อาชญากรแฟชั่น”
      
       เรียกว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งที่ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกเรื่อง สำหรับลูกทุ่งสาว “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ล่าสุดเจ้าตัวก็โดนเพจแอนตี้ขุดเรื่องการแต่งตัวมาเมาท์มอยเรียกว่าทั้งแซ่ บทั้งแสบไปถึงติ่ง แถมยังตั้งฉายาใหม่ให้เจ้าตัวว่าเป็น “อาชญากรแฟชั่น” เพราะแต่งตัวแต่ละครั้งถือว่าไม่ผ่านอย่างแร๊งงงส์
      
       ทั้งนี้ เพจดังกล่าวได้นำภาพของสาวใบเตยที่โพสต์ลงอินสตาแกรม เป็นการสวมชุดเดรสลายสก็อตสีแดงที่ยาวเกือบถึงตาตุ่ม ก่อนโดนบรรดาแอนตี้เหน็บเละว่าเอาผ้าปูโต๊ะมาทำเป็นชุดเดรสหรืออย่างไรกัน จ๊ะพร้อมๆ กับแสดงความคิดเห็นกันอย่างถึงพริกถึงขิง อาทิ “ชุดไรเนี่ย บทจะสั้นก็สั้นเกิน บทจะยาวก็เหมือนเอาผ้าปูโต๊ะมาคลุม เฮ้ออออ เพลียแทน!!”.....“มีเสื้อมีหมวกละพร้อมไปตัดอ้อยเลี้ยงช้าง พอตัดเสร็จก็แก้ผ้าเอามาทำผ้าปูโต้ะได้อีก แหม่สารพัดประโยชน์จริงๆ ช่วงอำพรางหุ่นตีบตันได้ดีอีกด้วยย 555555”.....“มึงไปเอาความมั่นใจแบบผิดๆ นี่มาจากไหน”...“มึงไปขโมยผ้าปูโต๊ะในงานเค้าหรออิเตย”!!!!
“ใบเตย” โดนอีก เพจแอนตี้ตั้งฉายาใหม่ “อาชญากรแฟชั่น”
       
“ใบเตย” โดนอีก เพจแอนตี้ตั้งฉายาใหม่ “อาชญากรแฟชั่น”
       

เล่นเลยเถิด! ชาวเน็ตหยิบข่าวเว็บ Manager เปลี่ยนหัว แซว "คิม จองอึน" เตรียมบอมบ์เกาหลีใต้หากบอลถูกโกง

เล่นเลยเถิด! ชาวเน็ตหยิบข่าวเว็บ Manager เปลี่ยนหัว แซว คิม จองอึน เตรียมบอมบ์เกาหลีใต้หากบอลถูกโกง
ตัวอย่างเพจที่แชร์ข่าวที่มีการแก้ไขพาดหัวเพื่อล้อเลียน แต่นำลิงก์ข่าวจริงจากเว็บ ASTVผู้จัดการไปใช้
        ASTVผู้จัดการ – ชาวเน็ตหยิบข่าวผู้นำเกาหลีเหนือในเว็บ manager เปลี่ยนหัวข้อ-โปรย ระบุ “คิม จองอึน เตรียมบอมบ์ทุกเมื่อหากทีมฟุตบอลถูกโกงนัดชิงเหมือนทีมไทย” คนแชร์ว่อนระบายความอัดอั้นหลังบอลไทยแพ้เกาหลีใต้ ทั้งที่ข่าวจริงไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย เว็บมาสเตอร์ระบุเข้าใจว่าล้อเล่น แต่ต้องมีขอบเขต เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ นำเข้าข้อมูลเท็จ สร้างความเข้าใจผิด
      
       ผลพวงจากการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ช่วงค่ำวานนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งทีมชาติไทยพ่ายให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ 2 ประตูต่อ 0 โดยแฟนบอลชาวไทยจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจกับการตัดสินของผู้ตัดสินว่า เข้าข้างเจ้าภาพมากเกินไป จนก่อให้ในโลกออนไลน์เกิดการล้อเลียนเกมการแข่งขันดังกล่าวเป็นอย่างมาก
      
       ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกขึ้นมาล้อเลียนคือ กรณีที่ทีมชาติเกาหลีใต้จะต้องเข้าไปชิงชนะเลิศ เพื่อแย่งเหรียญทองกับทีมชาติเกาหลีเหนือคู่ปรับในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ทำให้ชาวไทยจำนวนไม่น้อยหยิบ นายคิม จองอึน ผู้นำหนุ่มของเกาหลีเหนือขึ้นมาเป็นตัวแทนในการระบายอารมณ์ อย่างไรก็ตาม การล้อเล่น-ล้อเลียนเพื่อระบายอารมณ์บางประการก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวง กว้าง
      
       ตั้งแต่ค่ำวานนี้ถึงวันนี้ (1 ต.ค.) มีในโลกโซเชียลมีการส่งต่อชิ้นหนึ่งไปในวงกว้างระบุหัวข้อว่า “คิม จองอึน” ประกาศกร้าว พร้อมบอมบ์ทุกเมื่อหากทีมฟุตบอลถูกโกงนัดชิงเหมือนทีมไทย พร้อมโปรยข่าวระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือพร้อมสั่งบอมบ์ขีปนาวุธทุกเมื่อกับผู้เกี่ยวข้อง... โดยมีการลิงก์ข่าวมาที่ www.manager.co.th ซึ่งก็คือ เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ส่งผลให้มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงข่าวชิ้นดังกล่าวที่ถูกนำไปลิงก์และแชร์ต่อนั้นมีหัวข้อ ว่า “ลือ “คิม จองอึน” มีปัญหาสุขภาพ หลังไม่โผล่ประชุมสภาโสมแดง” โดยเป็นข่าวต่างประเทศของเว็บไซต์ www.manager.co.th ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เสียด้วยซ้ำ
      
       นายนิรันดร์ เยาวภาว์ เว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เข้าใจว่าการนำลิงก์ข่าวจากเว็บไซต์ไปเปลี่ยนพาดหัวและโปรยข่าวดังกล่าวเป็น การกระทำเพื่อประสงค์ที่จะล้อเล่น อาจด้วยความคึกคะนอง หรือเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจส่วนบุคคล แต่การกระทำดังกล่าวอาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับบุคคลทั่วไป และทำให้คนเข้าใจผิดได้ว่าเป็นข่าวจากเว็บไซต์ www.manager.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าว แต่กลับนำเสนอเรื่องราวที่เป็นเท็จ
      
       นอกจากนี้การกระทำดังกล่าวก็อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งในมาตรา 14 (1) ระบุว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีโทษตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. นายนิรันดร์กล่าวเสริม
      
       สำหรับข่าวดังกล่าวจากเฟซบุ๊กเพจของวัยรุ่นคนหนึ่งมีผู้กดไลค์นับพัน ครั้ง ทั้งยังมีการนำข่าวไปแชร์ต่อนับร้อยครั้ง ขณะที่ผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นบางส่วนก็ระบุว่า
      
       Gu Indyz - พาดหัว กับเนื้อหาข่าว คนล่ะเรื่องเลยอ่ะ
       Laksamee Giftsy - อ่านในเนื้อหาข่าวยังไม่เจอประโยคพาดหัวเลยค่ะ....
       Bbz Zolados - เปลี่ยนหัวข้อขำๆน่ะ อย่าเครียดนะคับ 555
      
       ด้านเจ้าของเพจก็ออกมายอมรับว่า "เราก็ไม่ ทราบคะเพราะเราแชร์ก็แชร์ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ใช่คนเปลี่ยนกระทู้ข่าว จะสังเกตได้ว่าเราแชร์มา ซึ่งกระทู้ข่าวตั้งเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ที่เกิดการแชร์เยอะเพราะเราอาจจะเป็นคนนึงที่มีคนติดตามพอสมควร ข่าวจึงกระจายเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่าจริงจังเลยคะ"
      
       Larly Bird Jongtanapiman - แชร์ = แบ่งปัน แปลว่าจะมีคนอื่นพบเห็นด้วยจะบอกว่าพื้นที่ส่วนตัวก็คงไม่ถูกนัก เล่นเอาฮาเฮก็ต้องมีขอบเขตนะครัชแหม่
เล่นเลยเถิด! ชาวเน็ตหยิบข่าวเว็บ Manager เปลี่ยนหัว แซว คิม จองอึน เตรียมบอมบ์เกาหลีใต้หากบอลถูกโกง
ภาพการแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทย-เกาหลีใต้วานนี้ (30 ก.ย.)
       
เล่นเลยเถิด! ชาวเน็ตหยิบข่าวเว็บ Manager เปลี่ยนหัว แซว คิม จองอึน เตรียมบอมบ์เกาหลีใต้หากบอลถูกโกง
ข่าวจริงต้นฉบับจากเว็บ ASTVผู้จัดการในวันที่ 26 ก.ย. 2557
       

“เล็ก” เตะจีนคว่ำซิวเหรียญทองอินชอน


“เล็ก” เตะจีนคว่ำซิวเหรียญทองอินชอน
ชนาธิป ซ้อนขำ
        ชนาธิป ซ้อนขำ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย ไม่พลาดเก็บเหรียญทองแรกให้กับทัพจอมเตะไทยในศึก เอเชียน เกมส์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้สำเร็จ หลังเอาชนะคู่ต่อสู้จากจีนไป 10-3 เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา
      
       ศึกเทควันโด “อินชอน เกมส์” ประเภทหญิงรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กก. รอบชิงชนะเลิศที่สนาม กังห์วา โดลเมนส์ ยิมเนเซียม ชนาธิป ซ้อนขำ นักกีฬาสาวเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2012 ที่อังกฤษ ลงสนามเผชิญหน้ากับ หลี่ เสี่ยวยี่ คู่ต่อสู้จากจีน เพื่อลุ้นเหรียญทอง
      
       เปิดยกแรก ชนาธิป ไม่พูดพร่ำทำเพลงเตะหัวเก็บ 3 แต้มนำก่อน 3-0 เข้าสู่ยกสอง กลับมาอีกครั้ง เสี่ยวยี่ ออกอาวุธเตะ ชนาธิป ไล่ตีเสมอเป็น 3-3 ก่อนจะประวิงเวลาจนจบยก แยกย้ายกลับไปเข้าฝั่งตัวเอง
      
       ยกสุดท้าย น้องเล็ก ออกอาวุธเตะทั้งลำตัวและศรีษะจนแซงนำเป็น 7-3 พร้อมกับเดินหน้าบุกต่อไม่พัก จนในที่สุดจบ 3 ยก ชนาธิป ชนะไป 10-3 คะแนน คว้าเหรียญทอง เอเชียน เกมส์ เหรียญแรกในชีวิตไปครองได้สำเร็จ

ศาลหัวหินพิพากษาประหาร "ไอ้เกม" ฆ่าข่มขืน"น้องแก้ม"บนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ศาลหัวหินพิพากษาประหาร ไอ้เกม ฆ่าข่มขืนน้องแก้มบนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน
ภาพจากแฟ้ม นายวันชัย หรือเกมส์ แสงขาว

ศาลหัวหินพิพากษาประหาร ไอ้เกม ฆ่าข่มขืนน้องแก้มบนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน

ศาลหัวหินพิพากษาประหาร ไอ้เกม ฆ่าข่มขืนน้องแก้มบนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน

ศาลหัวหินพิพากษาประหาร ไอ้เกม ฆ่าข่มขืนน้องแก้มบนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน

ศาลหัวหินพิพากษาประหาร ไอ้เกม ฆ่าข่มขืนน้องแก้มบนรถไฟ-คุก 4 ปีเพื่อน

ประจวบคีรีขันธ์ - ศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาประหารชีวิตนายวันชัย แสงขาว หรือ ไอ้เกม ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟ และจำคุก 4 ปี เพื่อนผู้ร่วมก่อเหตุ
      
       เมื่อเช้าวันนี้ (30 ก.ย.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในช่วงวันนี้ ศาลจังหวัดหัวหิน ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟตามที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยผู้ต้องหาคือ นายวันชัย แสงขาว หรือ “เกม” อายุ 22 ปี พนักงานปูเตียง การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาข่มขืน “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีนนทบุรี ขณะกำลังนอนหลับบนรถไฟตู้นอนขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ (ขาขึ้น) ก่อนจับร่างโยนทิ้งหน้าต่างทั้งที่เหยื่อยังมีลมหายใจ จนตกลงไปกระแทกพื้นเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม โดยเหตุเกิดกลางดึกในคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา
      
        ทั้งนี้ ทางตำรวจมีความเห็นว่า ไม่มีความหนักใจในการพิพากษาของศาลในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจคาดว่าโทษสูงสุดที่ผู้ต้องหาจะได้รับในครั้งนี้อาจจะถึงกับขั้นประหารชีวิต
      
       ด้าน ร.ต.ท.กมล ชะอมเพชร พนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ ศาลจังหวัดหัวหิน ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” เด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟ ตามที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยผู้ต้องหาคือ นายวันชัย แสงขาว หรือ “เกม” ซึ่งเป็นพนักงานประจำรถไฟที่ 174 จำเลยที่ 1 ที่ให้การรับสารภาพหลังจากถูกฟ้องรวม 5 ข้อหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตาย ลักทรัพย์ และเสพยาบ้า มีโทษสูงสุดคือ ประหารชีวิตนั้น
      
       ขณะที่ผู้พิพากษายังไม่ออกนั่งบัลลังก์ โดยอยู่ระหวางรอเบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำ ท่ามกลางญาติของน้องแก้มที่มารอฟังคำตัดสินเป็นจำนวนมาก
      
       ส่วนนายณัฐกร ชำนาญ หรือ หนึ่ง พนักงานทำความสะอาดบนรถไฟขบวนเดียวกัน จำเลยที่ 2 ถูกฟ้องในข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน แต่ว่าให้การปฏิเสธในชั้นศาล
      
       ล่าสุด ศาลพิพากษาว่า นายวันชัย จำเลยที่ 1 มีความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรม ฐานฆ่าผู้อื่น ให้ลงโทษประหารชีวิต ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ให้ลงโทษจำคุก 9 ปี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ให้ลงโทษจำคุก 5 ปี ฐานซ่อนเร้นศพ ให้จำคุก 1 ปี ฐานเสพยาบ้า ให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน โดยเมื่อรวมความผิดแล้ว ให้ลงโทษสูงุสดประหารชีวิต และการกระทำของนายวันชัย ที่อ้างว่าสารภาพเพราะสำนึกผิดนั้น ศาลเห็นว่า นายวันชัย รับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ
      
       ส่วนนายณัฐกรณ์ จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานให้การสนับสนุน จำคุก 6 ปี สารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 ปี

      
       **ศาลอ่านคำพิพากษาประหารชีวิต "ไอ้เกมส์" 
      
       ทั้งนี้ ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาเมื่อเวลา 10.20 น. และจบอ่านคำพิพากษาเมื่อเวลา 11.40 น. คดีอาญาหมายเลขดำที่ 1407/2557 ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดหัวหิน โจทก์ นางลักขณา ทองพัฒน์ โจทก์ร่วม นายวันชัย หรือเกมส์ แสงขาว จำเลยที่ 1 นายณัฐกรณ์ หรือหนึ่ง ชำนาญ จำเลยที่ 2
      
       โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 เวลากลางวันถึงวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยที่ 1 เสพเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 กระทำชำเราเด็กหญิงกชกร หรือน้องแก้ม พิทักษ์จำนง อายุยังไม่เกินสิบห้าปี ต่อจากนั้นจำเลยที่ 1 ฆ่าเด็กหญิงกชกร เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในยวดยานสาธารณะ
      
       จำเลยที่ 2 สนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 91, 199, 277, 288, 289, 335 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 57, 91 จำเลยที่ 1 ให้การ รับสารภาพ จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ
      
       ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า แม้โจทก์และโจทก์ร่วมไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 แต่โจทก์และโจทก์ร่วมมีพยานบุคคล และวัตถุพยานที่ตรวจพบหลังเกิดเหตุประกอบกันเป็นพยานพฤติเหตุแวดล้อมที่หนักแน่น มั่นคง นับตั้งแต่การตรวจยึดแท็ปเลตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ถูกลักไปขณะอยู่ในความครอบครองของผู้ตายจากนายภานุพงศ์ ต้นโพธิ์โต และนายนิรุตติ์ พุ่มเจริญ
      
       โดยนายภานุพงศ์ ให้การในชั้นสอบสวนยืนยันว่าจำเลยที่ 1 นำแท็ปเลตมาฝากขาย และนายนิรุตติ์เบิกความยืนยันว่า จำเลยที่ 1 นำโทรศัพท์เคลื่อนที่มาขาย ทั้งยังตรวจพบลายพิมพ์นิ้วมือของจำเลยที่ 1 ที่ด้านในกระจกหน้าต่างบริเวณที่นั่งของผู้ตาย ตรวจพบสารพันธุกรรมของจำเลยที่ 1 ที่กางเกงขาสั้นของผู้ตาย และสารพันธุกรรมของผู้ตายที่กางเกงชั้นในและเสื้อคลุมของจำเลยที่ 1 กับตรวจพบร่องรอยการกระทำชำเราที่อวัยวะเพศและทวารหนักของผู้ตาย ข้อเท็จจริงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามฟ้อง
      
       ปัญหาว่ามีเหตุบรรเทาโทษหรือไม่ จำเลยที่ 1 นำสืบว่า จำเลยที่ 1 รับสารภาพเพราะสำนึกผิดและรับสารภาพกับเจ้าพนักงานตำรวจก่อนเจ้าพนักงานพบหลักฐานเกี่ยวกับโทรศัพท์ เคลื่อนที่ซึ่งอยู่ในครอบครองของผู้ตายนั้น เห็นว่า จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธต่อเจ้าพนักงานตำรวจตั้งแต่ต้นว่าไม่เกี่ยวข้อง กับการหายตัวและการตายของผู้ตาย ข้อเท็จจริงที่จำเลยที่ 1 เบิกความขัดแย้งกับคำเบิกความของ พันตำรวจโทสาโรจน์ จอกโคกสูง สารวัตรสืบสวนกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ประกอบได้ความเพิ่มเติมว่า เดิมจำเลยที่ 1 ให้ถ้อยคำว่าโยน แท็ปเล็ต ทิ้งเมื่อขบวนรถเร็วที่ 174 แล่นผ่านสถานีนครปฐมซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงแล้วจำเลยที่ 1 นำไปฝากนายภานุพงค์ เพื่อนของจำเลย
      
       เมื่อนายภานุพงค์ นำ แท็ปเล็ต ไปมอบต่อเจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจรถไฟนพวงศ์ จำเลยที่ 1 จึงให้การรับสารภาพเพิ่มเติม ในประเด็นนี้ เป็นพฤติการณ์ส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพโดยจำนนต่อพยานหลักฐาน หาใช่รับสารภาพเพราะสำนึกผิดไม่ ทั้งพยานวัตถุที่พบและได้มาเป็นหลักฐานเกิดจากการค้นหาของเจ้าพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย และจากการสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานของเจ้าพนักงานตำรวจ
      
       ส่วนการค้นหาศพผู้ตายก็เกิดจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานกับญาติของผู้ตาย โดยเฉพาะญาติผู้ตายดำเนินการติดตามค้นหาตั้งแต่ต้นตลอดมา ไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งเป็นพยานบุคคล พยานวัตถุและพยานแวดล้อมโดยอาศัยคำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 แต่อย่างใด ประกอบกับชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 เบิกความว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดเพียงคนเดียว จำเลยที่ 1 ไม่ได้ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ทำให้เห็นเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่าไม่ประสงค์ให้จำเลยที่ 2 ต้องรับโทษด้วย คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 ในชั้นสอบสวน ชั้นพิจารณาและทางนำสืบของจำเลยที่ 1
      
       ในกรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำเลยที่ 1 ถือโอกาสที่ตนเองมีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร อาศัยโอกาสขณะปฏิบัติงานบนขบวนรถไฟข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปีที่นอนหลับอยู่ ขณะที่มีผู้โดยสารอื่นๆและญาติผู้ตายนอนหลับอยู่ใกล้ๆ จากนั้นโยนศพผู้ตายออกจากหน้าต่างขบวนรถเพื่อปกปิดการตาย ลักษณะของการกระทำความผิดจึงเป็นไปโดยอุกอาจไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง สมควรลงโทษในสถานหนัก
      
       ในส่วนจำเลยที่ 2 ได้ความตามทางนำสืบของโจทก์และโจทก์ร่วมว่า ระหว่างรถไฟแล่นจากสถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์จนถึงสถานีวังก์พง มีข้อบ่งชี้ว่าจำเลยที่ ๒ อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์มากที่สุด ประกอบกับชั้นสอบสวนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ โดยมีรายละเอียดต่างๆ ยากที่ผู้ใดจะรู้รายละเอียดดังกล่าวนอกจากตัวจำเลยที่ ๒ และยากที่พนักงานสอบสวนจะแต่งขึ้นเองได้ พยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมจึงมีน้ำหนักให้รับฟังว่า การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดตามฟ้อง
      
       พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 277 วรรคหนี่ง, 335 (1) (9) วรรคสอง, 289 (7) พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 90 จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 86 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยง ให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ให้ประหารชีวิต ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี จำคุก 9 ปี ฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในยวดยานสาธารณะ จำคุก 5 ปี ฐานซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย จำคุก 1 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน
      
       จำเลยที่ 1 รับสารภาพโดยจำนนต่อหลักฐาน ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ จึงไม่ลดโทษให้แก่จำเลยที่ 1 รวมโทษทุกกระทง คงให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1 สถานเดียว จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 ปี จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ 2 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 ปี
      
       **นักข่าวทุกสันักเฝ้าทำข่าวใกล้ชิด
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงเวลา 10.00 น. ที่ศาลจังหวัดหัวหิน ได้มีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักได้มาปักหลักรอทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ปุ๋ม ปนัดดา วงษ์ผู้ดี อดีตนางสาวไทย ที่เป็นแกนนำในการให้ออกกฎหมายคดีข่มขืนต้องประหารชีวิต และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอัยการสูงสุดได้เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษา รวมทั้งให้กำลังใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยในวันนี้ศาลจังหวัดหัวหิน ใช้ห้องเวรชีในการอ่านคำพิพากษา
      
       โดยทั้งนางลักขณา ทองพัฒน์ อายุ 48 ปี มารดาของน้องแก้ม และนายพัฒน์ชัย ธานินทร์พงศ์ อายุ 35 ปี พี่ชายตลอดจนญาติพี่น้อง ฯลฯ ได้เดินทางมาศาลจังหวัดหัวหิน ประมาณ 12 คน ทั้งหมดใส่เสื้อยืดสีขาว และสีดำ ที่สกรีนคำว่า 1 คนตาย 1 ล้านชีวิตตื่น
      
       โดยทางพี่ชายของน้องแก้มได้กล่าวว่ากับผู้สื่อข่าวว่า แม้ว่าคดีนี้จะผ่านไปกว่า 2 เดือน แต่มารดาก็ยังทำใจไม่ได้ ยังคงร้องให้ตลอดเวลา จนต้องหันหน้าพึ่งธรรมะ และขณะนี้มารดาน้ำหนักลดลงไปกว่า 8 กิโลกรัม โดยทุกอย่างก็อยู่ในดุลพินิจของศาล ขอให้ความยุติธรรมกับครอบครัวด้วย โดยขณะที่อ่านคำพิพากษามารดาน้องแก้ม ได้ร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งมีทั้งญาติๆ และผู้สื่อข่าวรวมประมาณ 50 คนเข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษา 

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557

“แทมมี-ลัก” เค้นพลังเก็บทองที่ 6 ศึกอินชอน


“แทมมี-ลัก” เค้นพลังเก็บทองที่ 6 ศึกอินชอน
แทมมี ผนึกกำลัง ลัก ล่าเหรียญทอง
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
“แทมมี-ลัก” เค้นพลังเก็บทองที่ 6 ศึกอินชอน
ลูกหวดของ น้องลัก

“แทมมี-ลัก” เค้นพลังเก็บทองที่ 6 ศึกอินชอน
สู้เต็มที่ท่ามกลางอากาศหนาว

แทมมารีน ธนสุกาญจน์ กับ ลักษิกา คำขำ สองนักเทนนิสสาวไทย เก็บเหรียญทองที่ 6 ให้กับทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จ ในศึก เอเชียน เกมส์ ที่เกาหลีใต้ หลังเฉือนชนะคู่ต่อสู้จากไต้หวัน ไปแบบสุดบีบคั้นหัวใจในช่วง ซูเปอร์ไทเบรก วันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา
      
       ศึกเทนนิส “อินชอน เกมส์” ณ สนาม โยรูมูล เทนนิส คอร์ต เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ วันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ประเภทหญิงคู่ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยสองสาวไทย แทมมารีน ธนสุกาญจน์ กับ ลักษิกา คำขำ ลงลุ้นแย่งเหรียญทองกับ ชิน เหว่ย จาง กับ ซู เหว่ย เซียะ จาก ไต้หวัน
      
       เปิดเซตแรก แทมมี-ลัก ออกสตาร์ทแจ่มเบรกคู่ต่อสู้เกมที่ 1 และ 3 ขึ้นนำ 4-2 เกม แต่จากนั้นตีเสียเองเยอะ ทำให้ เซียะ กับ จาง ตีเสมอและพลิกนำเป็น 5-4 แต่คู่หูสาวไทย ยังฮึดตีเสมอได้ในเกมของตัวเอง แต่สองเกมสุดท้ายพลาดโดนคู่แข่งเก็บแต้มจากหน้าเน็ต ทำให้ แทมมี และ ลักษิกา แพ้ก่อน 5-7
      
       เซตสอง รูปเกมเล่นกันสูสี ไล่เก็บแต้มสู้กันได้ จนกระทั่งเกมที่ 8 แทมมี กับ ลัก เริ่มเล่นได้เหนียวขึ้นผิดพลาดน้อยลง และในที่สุดก็ตีเสมอเซตได้ 6-3 ยื้อเข้าสู่ช่วงซูเปอร์ไทเบรก อันแสนบีบหัวใจ ก่อนที่ ลัก กับ แทมมี จะทำสำเร็จคว้าเหรียญทองด้วยผลชนะ 10-3