วันที่ 27 ตุลาคม 2557 เวลา 08.00 น.
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลนาแก้ว และเทศบาลตำบลเกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
รวม 4 คัน ได้รุดไปดับเพลิงที่บ้านเลขที่ 56 บ้านสองแควเหนือ ม.1 ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง
หลังจากได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านไม้สองชั้น ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจากการที่เจ้าของบ้านเผาเอง
จนเป็นเหตุทำให้ไหม้ลุกลามทั้งหลัง โดยที่เจ้าของบ้านก็เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้รุดเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงพบว่าไฟได้ไหม้ทั้งหลังแล้ว
จึงได้ใช้น้ำเข้าฉีดสกัด เพื่อป้องกันเปลวไฟที่จะไหม้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง
ท่ามกลางชาวบ้านที่ยืนดูเหตุดังกล่าวอยู่เป็นจำนวนมาก
ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
ก็ได้ใช้น้ำเข้าฉีดดับเพลิง โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ไฟจึงได้ดับ สนิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สภ.เกาะคา นำโดย พ.ต.อ.พิศุปกรณ์ น้อยปักษา ผู้กำกับการ สภ.เกาะคา และ พ.ต.ท.พินิจ พรหมเมศร์
รองผู้กำกับการ ฝ่ายป้องกัน และปราบปราม สภ.เกาะคา และเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐานลำปาง
พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลเกาะคา ก็ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกัน และชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต
ซึ่งพบว่าร่างได้ไหม้เหลือแต่กะโหลกติดหนัง และร่างกายบางส่วน ส่วนขา และเท้าได้ถูกไฟไหม้จนขาดออก
ซึ่งร่างที่ถูกไฟไหม้นั้นติดคาอยู่ที่คานโครงพื้นบ้าน ที่ยังไหม้ไม่หมด สำหรับผู้เสียชีวิตที่เผาตนเอง
และบ้าน คือ นายเลิศ รวมนิด อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงคนเดียว
และทำงานรับจ้างอยู่ที่โรงแรมปลายนา รีสอร์ท อ.เกาะคา
จ.ลำปาง
ซึ่งก่อนที่จะก่อเหตุในครั้งนี้ นายเลิศ
ผู้เสียชีวิตได้ไปก่อเหตุข่มขืนเด็กหญิง อายุ 12 ปี ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนที่พ่อ
และแม่เด็กจะจับได้ว่า ได้ล่วงเกินข่มขืนเด็กหญิงคนดังกล่าวถึง 2 ครั้ง
ทั้งที่บ้านที่ถูกไฟไหม้ครั้งนี้ และที่บ้านของเด็ก ในขณะที่พ่อ และแม่เด็กไม่อยู่
ก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน โดยพ่อ และแม่เด็ก ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย
ทำให้ผู้เสียชีวิตเกิดความเครียด
เพราะไม่อยากที่จะติดคุก
จึงก่อเหตุเผาตนเองพร้อมบ้าน
เพื่อหนีปัญหาที่เกิดขึ้น สำหรับเด็กหญิงที่ถูกข่มขืนครั้งนี้ เคยถูกชายในหมู่บ้าน อายุ 60 ปี
ข่มขืนมาก่อนแล้ว
โดยชายคนดังกล่าวนั้นถูกแจ้งความดำเนินคดีก่อนที่ศาลจังหวัดลำปางจะติดสินให้ติดคุกไปนานถึง 34 ปี
กระทั่งมาถูกข่มขืนขึ้นโดยชายที่เผาร่างตัวเองหนีควรามผิดอีกครั้งอีกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น