วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

“กานต์” ลั่นสุดจะทน “เสก” คลั่งหนัก วอนผู้ใหญ่พาตัวรักษาอาการทางจิต

“กานต์” ลั่นสุดจะทน “เสก” คลั่งหนัก วอนผู้ใหญ่พาตัวรักษาอาการทางจิต
        “กานต์” ลั่นสุดจะทนพฤติกรรม “เสก โลโซ” เผยอาการหนัก คลุ้มคลั่ง ก้าวร้าว มีสองบุคลิก ชอบหลอนตอนดึกๆ แถมเคยตบตีตนโดยไร้สาเหตุ รับอาการหนักกว่า 3 ปีที่แล้ว มั่นใจมีอาการทางจิตและเป็นเพราะยาเสพติด ยันทำเกินไปจนตนหมดรักแล้ว และคงอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว วอนผู้ใหญ่ช่วยพาตัวไปรักษาบำบัดอาการทางจิต
      
       หลังจากที่ “กานต์ วิภากร ศุขพิมาย” เปิดศึกน้ำลายสนั่นโซเชียลกับอดีตสามีขาร็อก “เสก โลโซ” เสกสรรค์ ศุขพิมาย จน เรื่องราวบานปลายถึงขั้นฝ่ายชายฟ้องร้องอดีตเมียและผู้เกี่ยวข้องรวม 200 ล้านบาท ด้านกานต์ก็ออกมาโพสต์ภาพ และข้อความที่ชวนตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นภาพโดนอีกฝ่ายซ้อมน่วม หน้าบวมฉึ่ง เพื่อให้เห็นถึงพฤติกรรมก้าวร้าวของเสก
      
       ล่าสุด กานต์ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้งระหว่างอัดรายการคนดัง นั่งเคลียร์ ช่อง 2 ลาดพร้าว 15 โดยยืนยันว่าไม่อาจร่วมชีวิตกับเสกได้อีกแล้ว เพราะอีกฝ่ายมีพฤติกรรมที่เกินไป ก้าวร้าว บ้าอำนาจ และตบตีตนโดยไร้สาเหตุ ส่วนที่ยังไม่ตัดสินใจฟ้องหย่าเพราะติดปัญหาเรื่องสินสมรส และตนต้องคิดให้รอบคอบก่อน
      
       “เริ่มต้นมาจากวันที่ 3 กันยายน เราก็นอนหลับอยู่ประมาณ 8-9 โมงเช้า แล้วอยู่ดีๆ พี่เสกเขาก็เดินขึ้นมาตบตีทำลายข้าวของพี่ โพสต์ไปแล้ว แจ้งไปแล้ว เสร็จแล้วเขาก็เดินลงไปพี่ก็นอนต่อซักพัก แล้วแม่บ้านก็ขึ้นมาบอกว่า ให้คุณกานต์ออกไปก่อนเพราะว่าเสกเขาคลุ้มคลั่ง เราเลยออกมาตั้งแต่วันนั้น แล้วไม่ได้เข้าไปอีก พี่ไม่ได้คุยกับเขาตั้งแต่ 18 สิงหาคมเนื่องจากเขาพูดจาไม่ดี เราไม่คุย ไลน์ไม่ตอบ ไม่รับสาย แล้วเขาก็เป็นอย่างนั้น”
      
       “พฤติกรรมเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่ต้นปี บ้าค่ะ คลุ้มคลั่ง ก้าวร้าว บอกว่าตัวเองเป็นเจ้า เราเลยไม่อยากคุยกับเขา ตอนพาคุณหมอเข้าไปเป็นวันที่ 18-19 กันยายน เราได้คุยปรึกษาคุณหมอสองคนมาสักระยะ ก็พาคุณหมอเข้าไป ปรากฏว่าพอเขาห็นคุณหมอ เขาก็เก็บตัวเองไว้ในห้องกระจกแล้วเขาก็ด่าคุณหมอแรงมาก เรารอสักพักแล้วก็กลับกัน”
      
       เผยเสกมีพฤติกรรมก้าวร้าว บ้าอำนาจ อยู่ดีๆ ก็เดินมาตบตนไม่มีสาเหตุ
       “พี่เสกมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ก้าวร้าวแล้วคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านานมากแล้ว เขา บ้าอำนาจตลอดเวลา มันก็มีสองอย่างอาจเป็นโรคจิตหนึ่ง ใช้ยาหนึ่ง คนในวงรู้ดี คอยเตือนเรามาตลอด เราก็สงสัยว่าใช่ไม่ใช่ จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ก้าวร้าวมาก คืออยู่ดีๆ ก็เดินมาตบเราโดยไม่มีสาเหตุ บางครั้งเอางานมาให้ดู ก็ลุกขึ้นมาตบ มันไม่ใช่แล้ว เพราะปกติเขาไม่ใช่ขนาดนั้น ที่ทำให้เราไม่ไหวเพราะเขาบ้าอำนาจ มันสะสม แล้วเขาเอาแก้วของเราทิ้งพันสองพันใบ เราไม่รู้ว่าเขาฟ้องหย่าหรือฟ้องอะไร แต่หมายศาลยังไม่เห็น”
      
       “ตอนนี้ไม่ทนแล้วค่ะ มันหนักเกินไป มีแต่เขาส่งไลน์มาด่า แล้วมันมีเยอะกว่านั้น ที่เอาออกมาแค่บางส่วน มันอยู่กันไม่ได้ ขนาดนี้ ตัวเขาต้องการหย่า เราก็อยากหย่าเหมือนกัน ก็ให้นัดมาก็โพสต์ไปแล้ว ก็ไม่เห็นมีติดต่อกลับมาเลย คนมองว่าเราประจานเขา ไม่ได้ประจานนะ ไม่รู้จะคุยกันทางไหนมากกว่า พี่เสกก็มีคนครอบงำเขาหลายคน มันคุยกันไม่ได้ต้องให้ทุกคนเห็นด้วยว่าเขาปกติหรือเปล่า ที่เขาจ้างคนมาอยู่รอบตัวเขา เป็นสิ่งที่เราก็ค่อนข้างเป็นห่วงเพราะเขาเป็นคนเชื่อคนง่าย ก็จัดการเห็นบอกว่ามีใบมอบอำนาจทุกอย่างเกี่ยวกับทุกเรื่องรวมถึงการเงิน ด้วย ตอนเราออกมาได้เกือบเดือนก็ไม่แน่ใจนะแต่ก็ได้ยินว่ามีการใช้เงินไปสิบกว่า ล้าน มันคืออะไร”
      
       เผยแจ้งความให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันข้อหาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย อยากให้มีใครยื่นมือช่วยเหลือนำตัวเสกไปรักษาเพราะอีกฝ่ายกลายเป็นคนสอง บุคลิก
       “ข้อหาข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ทำร้ายทรัพย์สิน เหตุเกิดที่บ้านค่ะ คือจุดประสงค์หลักๆ คือต้องการให้เขาเข้าบำบัดหรือรักษาโรคที่เขาเป็นก่อน แต่ถ้าเขาจะหย่าเลยก็หย่าได้ แต่อยากให้ทางผู้ใหญ่ใครก็ได้ช่วย หรือ มีกฎ พรบ. พาเขาไปรักษาตัว เราขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงานแล้วแต่ไม่มีใครกล้า แต่เรื่องนี้มันเซ้นซิทีฟ เราอาจคิดไปเองหรือเปล่า ถ้าไม่ได้อยู่ในนั้นจริงๆ ไม่รู้หรอก เพราะเขาคล้ายๆ สองบุคลิก คือทำงานได้ บางทีสัมภาษณ์รายการวู้ดดี้ก็ดูปกติ แต่อีกบุคลิกคือหลอนๆ ตอนดึกๆ ตอนนนี้ไม่รักแล้วค่ะ เพราะเขาทำเกินไป”
      
       “เป็นห่วงลูกค่ะ เพราะเรายังอยู่ในสินสมรส นั่นมันคือปากท้องลูกพี่ไง เรื่องทำร้ายร่างกาย เขาก็ทำมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องบอกลูกก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ สามารถกลับไปอยู่ด้วยกันได้อีกแล้ว น้องๆ อยู่กับเราแล้วก็บอกว่ายังไงไม่มีทางกลับไปคืนดีกันได้ ล่าสุด เมื่อวานน้องๆ เขาก็เข้าไปจะเอาชุดนักเรียนอุปกรณ์ คือมันเหมือนกับ 3 ปีที่แล้วเด๊ะ แต่เราไม่ได้ไป ให้น้องเขาพาไป เขาไม่ให้น้องเข้าบ้าน เขาดูแลเรื่องการเงินเพราะเขาเป็นคนหาเงินเป็นหลักของครอบครัว แต่ความรู้สึกการเอาใจใส่ลูกไม่เคยสนใจ เราไปเช็กตอนเขาออกมา เขายังไม่เห็นหน้าพ่อเลยขนาดอยู่บ้านเดียวกัน ลูกได้คุยกับเขาเมื่อวานบอกวาจะขอไปบ้าน แต่พี่เสกบอกว่าไม่ให้เข้าไป”
      
       “หลักฐานมีเยอะแยะ เราอาจฟ้องหย่า แล้วเขาฟ้องหย่าเราหรือเปล่า ถ้าเขาฟ้องเรา เราก็ฟ้องกลับ ส่วนเรื่องผู้หญิงคนอื่นเขามีมาตลอด แต่เราไม่รู้ เพราะเราไว้ใจไม่ระแวง แต่มารู้ตั้งแต่เป็นเรื่องประมาณเดือนหนึ่งที่รู้ว่าเขามีผู้หญิง”
      
       ย้ำยังไงเสกก็ต้องเข้ารับการบำบัดจิต เผยต่อให้รักษาเสกหายสนิท ตนก็ไม่ขอกลับไปดูแลอีกฝ่ายแล้ว ส่วนเรื่องฟ้องหย่าขอใช้เวลาตัดสินใจให้รอบคอบก่อน
       “คงไม่กลับไปดูแลเขาแล้วค่ะ เพราะว่าไม่ไว้ใจว่าจะเป็นอีกเหมือนเดิมหรือเปล่า ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง ครั้งที่สามเป็นอีก เราอยากให้เขาบำบัด ส่วนที่ยังไม่คิดฟ้องหย่า เพราะเราต้องคิดให้ดีๆ ก่อน คือตอนนี้ปัญหาหลายกรณีเหลือเกิน หลายอย่างที่ต้องฟ้อง เอาไปทีละอย่าง มันก็เกี่ยวกับทุกอย่าง ลูกก็เป็นหลัก เพราะเขาประกาศว่าเขาจะเอาลูกไปเลี้ยงเองด้วย”
      
       “สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นกว่าช่วงแรกๆ อาทิตย์ก่อนโห ปวดหัว ตอนนี้เริ่มดีขึ้น ลูกให้กำลังใจพี่อยู่แล้ว เขาต้องการอยู่กับแม่อยู่แล้ว ลูกก็บอกเองว่าขนาดลูกคุยกับน้าเขา ลูกยังบอกเลยว่าเขาติดยา (อยากให้จบยังไง) หลักๆ คืออยากเอาลูกไปอยู่กับเรา แล้วอยากให้เขาไปรักษาตัว ถ้าไม่ใช่เล่นยาจริง ก็ต้องบำบัดจิตค่ะ เรื่องนี้เป็นหลักกว่าค่ะคือ เขาต้องรักษาเพราะเขาไม่ปกติ เขาทำ งานได้ เล่นคอนเสิร์ตได้ สัมภาษณ์ได้ แต่เขาคล้ายๆ สองบุคลิก บุคลิกหนึ่งก็รู้เรื่อง อีกบุคลิกหนึ่งก็คลุ้มคลั่ง โพสต์ด่าคนโน้นคนนี้บ้าๆ บอๆ”
      
       ยันอยากให้มีใครยื่นมือช่วยเหลือ เพราะเรื่องรุนแรงกว่าที่ทุกคิดไม่ได้เป็นแค่เรื่องในครอบครัวอีก
       “เรื่องโดนทำร้ายก็มีศูนย์ประชาบดี ก็คุยได้วันสองวันเองค่ะ เมื่อวานนี้ไปยื่นร้องต่อศาล ขอเข้าไปอยู่ในบ้าน แล้วขอให้คนนอกออกมาอยู่ข้างนอก เขาเอาคนมาอยู่ในบ้านเป็นสิบ ก็ในสื่อไนน์เอ็นเตอร์เทนเขาก็อบกว่าไม่ให้เข้า ก็กังวลเรื่องปัญหานี่แหละ วันต่อวันไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ตอนนี้เราอยากให้ทางผู้ใหญ่จริงๆ จัดการให้เราบ้าง มันเดือนกว่าแล้ว ทุกคนเห็นเป็นเรื่องครอบครัวเซ้นซีทีฟไม่กล้าช่วยเลยต้องพึ่งทางสื่อทาง เฟซบุ๊ก คือเขาอาจคิดว่าแค่โกรธงอนกันแต่มันไม่ใช่ไง เราสะสมมาเป็นปีแล้ว
      
       “เราไปปรึกษาคุณปวีณา หงสกุล แล้ว แต่ยังไม่มีฟีดแบ็กกลับ แจ้งตำรวจก็ให้ไปแจ้ง คสช. พี่เลยบอกว่าจะไปแจ้งท่านประยุทธ์(หัวเราะ) แต่ ยังไม่ได้ไป ก่อนหน้านี้ให้พี่มนัสช่วย เขาก็ด่าพี่มนัสไง พี่มนัสนี่เขานับถือมากนะ เขายังโดนเลย ก็เลิกยุ่ง เขาก็คงโกรธ แต่ไม่อยากยุ่งกับเสกแล้ว เป็นปฏิปักษ์กัน เดี๋ยวหลังจากนี้จะจัดแถลงข่าวอีกทีหนึ่งร่วมกับคุณหมอแล้วก็พี่มนัสด้วย”
      
       “เรื่องนี้ไม่ได้คุยกับทางครอบก็ไม่มีค่ะ มีตอนแรกๆ เขาโทรไปว่าพ่อกับแม่พี่ ตอนที่เอาหมอไป คือพี่คุยกับหมอสองคน รู้กันแค่สองคน แต่เขาคิดว่ารู้กันทั้งบ้าน ก็ไปด่าพ่อ ด่าน้อง ด่าทุกคน ซึ่งทุกคนไม่มีใครรู้เลย จุดพีกของเขาที่เขาโกรธสุดคือเอาหมอเข้าไป แล้วนี่คืออะไร ตอนนี้ไปไหนมาไหนต้องเอาเพื่อนไปด้วย เราคงไม่สามารถกลับไปเป็นพ่อแม่ลูกกันได้แล้ว ขนาดเด็กดูก็รู้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะมันแรงจริงๆ ครั้งนี้หนักกว่า 3 ปีที่แล้วนะคะ แรงมาก”
      
       เชื่อเสกอาการหนักเพราะขาดยารักษาอาการทางจิต และไม่ยอมพบจิตแพทย์อีก
       “ตอนนี้ลูกก็เครียดค่ะ คนที่สองกับสามนี่โอเค แต่คนแรกรู้สึกเครียดมากค่ะ ก็พยายามคุย แต่เขาเป็นคนเงียบด้วย แต่วันนี้เขาดีขึ้น แต่วันแรกเขาเครียดมาก ก็อยากให้เขาบำบัดหรือ ไม่ก็รักษาโรคจิต ให้คุณหมอวินิจฉัยว่าเขาปกติหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านั้นเขารักษาตัวที่ธัญรักษ์ ก็ใช้ยาหมอจิตแพทย์มาตลอด แต่พอเขาเลิกใช้ก็เป็นแบบนี้ เลิกมาปีกว่า พอเลิกใช้ยาพวกนั้น สงสัยปรับอารมณ์มั้งคะ เขาก็ไม่ไปหาหมอ ไม่ไปหาจิตแพทย์”
      
       “คือจริงๆ หมอบอกว่าต้องกินยาไปตลอดชีวิต แต่เขาไม่ใช้ อาการเลยเป็นแบบนี้ ก็ ไม่รู้ว่าเป็นด้านจิตหรือเป็นเพราะยาเสพติดหรือทั้งสอง อยากให้รักษาเรื่องหย่าจะหย่าก็ได้หรือไม่หย่าก็ได้ อันนั้นเป็นเรื่องรอง แต่ว่าอยากให้ไปบำบัดอยากให้ผู้ใหญ่ช่วย มันมีพรบ. สั่งให้บำบัดได้เลยนะ แต่ทำไมถึงทำไม่ได้ เราไม่ได้มีเจตนาทำร้าย เราอยากให้เขารักษา เพราะเขาเป็นมาก ต้องไปอยู่กับเขานะ อาทิตย์หนึ่งแล้วถึงจะรู้”
“กานต์” ลั่นสุดจะทน “เสก” คลั่งหนัก วอนผู้ใหญ่พาตัวรักษาอาการทางจิต
       
“กานต์” ลั่นสุดจะทน “เสก” คลั่งหนัก วอนผู้ใหญ่พาตัวรักษาอาการทางจิต
       
“กานต์” ลั่นสุดจะทน “เสก” คลั่งหนัก วอนผู้ใหญ่พาตัวรักษาอาการทางจิต
       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น