คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
|
เว็บข่าวฝ่ายต้านนายกฯ แซวแรง ลงข่าวแถลงนโยบายจัดการข้าวระยะสั้น-ยาว
เตรียมจัดโซนนิ่ง ส่งเสริมชาวนารุ่นใหม่ให้เรียนขั้นสูง
โวจะทำให้คนทั้งโลกกินข้าว-ขนมจีนแล้วไทยจะขายข้าวได้
ไม่ใช่กินขนมปังเพราะจะอ้วน
หนุนโฮมสเตย์ให้ชาวต่างชาติเกี่ยวข้าว-สัมผัสชีวิตชาวนา และเด็กๆ
ต้องกินข้าวหมดจาน
วันนี้ (8 ต.ค.) เว็บไซต์ประชาไท
ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นเว็บไซต์ข่าวของฝ่ายต่อต้านรัฐประหาร
และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ้างแหล่งข่าวจาก เว็บไซต์รัฐบาลไทย
เปิดเผยกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์
กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว
ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า
การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวดังกล่าว
เพื่อแก้ปัญหาตามลำดับ
โดยปัญหาเร่งด่วนที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาทันทีคือการจ่ายเงินให้เกษตรกรจาก
โครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงเรื่องที่ชาวนา ชาวไร่ได้รับความเดือดร้อน
โดยยืนยันว่าการกระทำของรัฐบาลไม่ได้เป็นประชานิยม
แต่เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหามาก่อน
สำหรับระยะที่สองรัฐบาลจะสานต่อมาตรการระยะยาวให้เกิดความยั่งยืน
เช่น แก้ไขปัญหาราคาเรื่องข้าวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ
คือต้องทำอย่างไรให้ราคาข้าวสูงขึ้น การปรับปรุงพันธ์ข้าว
การกำหนดพื้นที่ปลูกข้าว
รวมถึงความต้องการของตลาดเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา
ชาวไร่ให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยมีการจัดกลุ่มของชาวนาแบ่งออกเป็นกลุ่มชาวนาที่มีที่ทำกินน้อย
มีรายได้น้อย และยากจนมาก กลุ่มชาวนาที่มีพื้นที่ทำกินมากขึ้นเกิน 40 ไร่
กลุ่มชาวนาที่มีที่ทำกินมากใช้เทคโนโลยีในการเพาะปลูก ได้รับผลกระทบน้อย
และกลุ่มชาวนาที่ให้เช่าที่นา ทั้งนี้
ต้องจัดลำดับในการช่วยเหลือตามความจำเป็น โดยมีมาตรการระยะสั้น
ระยะยาวในการช่วยเหลือ
สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น
ไม่ว่ามาจากสาเหตุการเข้าร่วมโครงการไม่ทันเวลาที่กำหนด หรือโดนหลอก
ขอให้สบายใจได้ ไม่ต้องกลัว รัฐบาลจะจ่ายเงินให้แน่นอน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ศูนย์ดำรงธรรม ของกระทรวงมหาดไทย
และศูนย์เกษตร
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งสองศูนย์นี้จะต้องขับเคลื่อนทุกอย่าง
ทุกปัญหาให้ประชาชน และเกษตรกรทั้งหมด
โดยจะเชื่อมโยงทั้งสองศูนย์เข้าด้วยกัน
จะมีการกำหนดพื้นที่ในการเพาะปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่
โดยจะให้เจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการเกษตรเข้าไปช่วยเหลือด้านพันธุ์พืช
ลดราคาต้นทุน รวมไปถึงการจัดหาช่องทางการตลาดอย่างครบวงจร
ในระยะยาวจะต้องสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่
โดยจะส่งเสริมให้เรียนหนังสือในระดับที่สูงให้เป็นตัวแทนเกษตรกรในแต่ละ
พื้นที่ นอกจากนั้น ต้องมีการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกว่าในเขตชลประทานเท่าไหร่
นอกเขตชลประทานเท่าไหร่ มีการปลูกพืชอะไรบ้าง มีข้าวชนิดใดบ้าง
เพื่อกำหนดพื้นที่โซนนิ่งให้เหมาะสม ให้มีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในรูปแบบโฮมสเตย์
สอนวิธีการเพาะปลูก จนถึงวิธีการเก็บเกี่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
สร้างรายได้อีกทางหนึ่ง สำหรับประชาชนที่ไม่มีที่ทำกิน หรือมีรายได้น้อย
จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแล
เพื่อพิจารณาจัดสรรที่ทำกินกับประชาชนกลุ่มนี้อย่างเหมาะสม ช่วยสร้างรายได้
และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ระหว่างการแถลงข่าวตอนหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์
กล่าวถึงแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ชาวกินข้าว เพื่อให้ชาวนาขายข้าวได้ว่า
"การโซนนิ่งพื้นที่ก็ได้มอบหมายตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยให้ รมว.มหาดไทย
เป็นประธาน เพราะเกี่ยวข้องหลายกระทรวง ทั้งเกษตร พาณิชย์ จะได้ไปด้วยกัน
ว่าปลูกอย่างไร ขายอย่างไร ตลาดว่าอย่างไร สั่งงานไปแล้ว
เรื่องนี้รวมเรื่องยางด้วยเพราะเป็นการโซนนิ่ง
แต่ไม่มีการจ้างให้คนเลิกผลิต จะเอาเงินที่ไหนไปจ้าง
เขาจะกินอะไรยังไม่รู้เลย ต้องเน้นให้ใช้ที่ให้น้อย ใช้น้ำให้น้อย
มีผลผลิตสูง มีราคาดีก็จบ แต่มันยากทุกคนเข้าใจ ใครเคยทำนาบ้าง
เธอรู้ไหมมันยากขนาดไหนกว่าจะได้ข้าวแต่ละเมล็ด"
"ผมก็มีแนวคิดว่า ถ้าเราทำได้เราก็จะส่งเสริมให้คนเขารักชาวนา
ทำอย่างไรให้คนทั้งโลกกินข้าว ทำอย่างไรให้คนทั้งโลกกินขนมจีน
ไม่ใช่สนับสนุนให้คนกินขนมปังหมด ไม่ใช่ ต้องคนทั้งโลกนี้กินข้าวให้มากขึ้น
แข็งแรง สมเด็จพระนางเจ้าฯ
ทรงรับสั่งว่านักกีฬาทั่วโลกเดี๋ยวนี้เขาทานข้าว เขากินข้าว
เขาถึงมีพลังมาสู้ได้ เราก็ต้องกินข้าวมากๆ ทั้งโลก
ทั้งโลกกินข้าวหมดทุกประเทศ เราก็ขายข้าวได้ ข้าวทั้งโลกก็ดีขึ้น
ไม่ใช่กินขนมปัง ไม่เอานะ อ้วนเปล่าๆ"
"ต่อไปเรื่องข้อมูลต่างๆ ก็ให้กระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย
สำรวจเรื่องการจดทะเบียนชาวนา ชาวไร่ ต้องชัดเจน ประมาณไม่ได้
ต่อไปนี้ประมาณไม่ได้ ต้องรู้ว่าอยู่นอกเขตชลประทานเท่าไหร่ ในเขตเท่าไหร่
แต่ละพื้นที่ปลูกอะไรเท่าไหร่ ต้องรู้แล้ว ข้าวคุณภาพดี ปานกลาง ด้อย
คุณภาพไม่ดี มันมีตลาดของแต่ละส่วนอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเราปลูกข้าวดีหมด
แต่จะไปขายใครได้ทั้งหมด บางประเทศกินข้าวหอมมะลิ บางประเทศกินข้าวราคาต่ำ
บางประเทศกินข้าวนึ่งเพราะเขามีสตางค์ซื้อ มันต้องมีตลาดข้าว
แต่ต้องไม่เกินความต้องการตลาดโลก ต้องนำไปสู่การโซนนิ่งของเรา
ให้แนวทางอุตสาหกรรมด้วยว่า
ทำอย่างไรลุ่มน้ำทั้งหมดจะไม่เป็นอย่างอื่นนอกจากปลูกพืช เพราะมันติดแม่น้ำ
ตั้งโรงงานก็เสียของไปเปล่าๆ ต้องปรับแก้ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต"
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์
กล่าวถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัส
ชีวิตชาวนา และส่งเสริมให้คนไทยกินข้าวหมดจานว่า "อีกเรื่องก็คือ
นอกจากการปลูกข้าวเพื่อขาย เพื่ออะไรต่างๆ ยกระดับชาวไร่ชาวนาแล้ว
ผมอยากส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ เชิงนิเวศน์
จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวไปจัดสิ ใครอยากมาเที่ยวไทย มาอยู่ใน ...
เขาเรียกอะไรล่ะ "โฮมสเตย์" มาเที่ยว แล้วมากินอยู่หลับนอน 15 วัน 20 วัน
ฝรั่งชอบนะ เท่าที่ผมไปดู มาทำนา เขาก็สนุกสนานของเขาไป แต่เขาจะรู้ว่า
แปลงนี้ข้าวมันโตแล้วก็เกี่ยว แปลงนี้เป็นข้าวสาลีเอาไปตำข้าว สีข้าว
เป็นเมล็ดออกมาหุงให้กิน เขาจะรู้ว่ามันยาก กว่าจะเป็นข้าวแต่ละเมล็ด
คนไทยยังไม่รู้เลย ลูกหลานก็กินข้าวเหลือบานเบะครึ่งจาน ผมไม่ยอม
ต้องกินข้าวให้หมดทุกเม็ด สมัยเป็นนักเรียนนายร้อยนะ ถ้ากินข้าวไม่หมดจาน
ต้องแบกข้าวทีละเมล็ดไปวิ่งรอบโต๊ะ ต้องเข้มงวดขนาดนั้น เพราะสงสารชาวนา
เขาไม่เคยร่ำรวยขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นต้องยกระดับข้างล่างให้สูงขึ้นให้ได้"
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น