“ใบเตย” ฉุน “จ๊ะ คันหู” ด่าตอแ-ล! แขวะมารยาทรุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ตรงไหน

“ใบเตย” เอาจริง! บอกผู้ใหญ่ขอสลัดทิ้งฉายา “สั้นเสมอหู” เผยเตรียมฟิชเจอร์ริ่งกับศิลปินแห่งชาติรับประกันความแซ่บ โวเพลง “แน่นอก” พลิกชีวิต ยิ่งกว่าถูกหวยร้อยล้าน มั่นใจไม่มีใครเลียนแบบได้อีก รับมีปัญหา “จ๊ะ คันหู” จริง เหตุอีกฝ่ายด่ากระทบตนว่าตอแ-ลบนเวทีคอนเสิร์ต แขวะไม่ใช่มารยาทในการเป็นศิลปินที่ดี               หลังจากที่โดนคนกระหน่ำด่าถึงความไม่เหมาะสมของนักร้องสาวสั้นเสมอหู “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน ที่ ใส่ชุดไม่ถูกกาลเทศะเข้าวัด จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษขอโพยยกใหญ่ และบอกจะระมัดระวังมากขึ้น โดยภายหลังสาวใบเตยได้แต่งกายเหมาะสมไปไปร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวที่โรงพยาบาลศิริราช และได้รับกระแสชื่นชมเกินคาด ทำให้สาวใบเตยเปิดใจว่าต่อจากนี้ไปจะขอสลัดทิ้งฉายา “สั้นเสมอหู” โดยได้เข้าไปขอผู้ใหญ่อาร์เอส.ว่าขอคีปลุกส์เป็นใบเตยคนใหม่ พร้อมเปิดใจกรณีซดเกาเหลา “จ๊ะ คันหู” นงผณี มหาดไทย เพราะอีกฝ่ายแอบเหน็บตอแ-ล บนเวทีคอนเสิร์ต               “ตั้งแต่ใส่ยาวในงานถวายพระพรชีวิตดีขึ้นมากค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ไม่เคยคิดว่ามันจะสวย เพราะไม่ได้เป็นชุดที่อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ คือเอาจริงๆ ใบเตยไม่เคยคิดว่าตัวเองใส่ยาวแล้วสวย ไม่เคยมั่นใจเลยจนวันนั้นน่ะค่ะ คือชุดนั้นสไตลิสต์เลือกให้ ซึ่งไม่อยู่ในสายตาเราแน่ๆ ยาวขนาดนั้นเนอะ ผู้จัดการก็บอกว่างานเรียบร้อย ใส่ไปเถอะ คือความจริงเราก็ตั้งใจใส่ยาวอยู่แล้วแหละ แต่ชุดนั้นมันไม่ได้อยู่ในสายตา รู้สึกว่ามันไม่ใช่เราเลย มันเรียบร้อยมากๆ แต่ปรากฏว่าดีใจมากที่ได้ใส่ เป็นชุดเปลี่ยนชีวิตเลยค่ะ เราคงโดนด่ามาเยอะ จากชุดไปทำบุญที่ใส่กางเกงขาด เราก็แก้ตัวอย่างรวดเร็ว ก็ไม่นึกว่าคนจะชม จากที่เกลียดเรากลายเป็นมารักชอบเราเพราะชุดนี้ (ยิ้ม)”               “ฟีดแบ็กส่วนใหญ่ที่เข้ามาบอกว่าน่าจะใส่อย่างนี้นานแล้ว ใส่แบบนี้ดีมาก ต่อไปนี้ไม่ต้องใส่สั้นแล้วนะ มีแบบนี้เยอะมากจริงๆ ค่ะ แล้วไม่ใช่เยอะแค่ในโซเชียลนะคะ แต่ว่าคนที่เห็นรูปเราจากอินสตาแก รมหรือข่าวต่างๆ ผู้ใหญ่ ญาติๆ ก็ไลน์มาชม คนรอบข้างเรา ก็งงเหมือนกัน (หัวเราะ) ซึ่งต่อไปนี้ก็คงจะคีปลุกส์มากขึ้นในเรื่องของการมางานที่มีเยาวชนเยอะ เป็น วัด มีพระ เป็นวัฒนธรรมค่ะ ก็ต้องเรียบร้อยและมองอะไรให้มันกว้างกว่าเดิม เพราะใบเตยเป็นคนที่ถ้าเรามองว่าไปวัดขนาดเท่านี้ได้ เราก็จะมองแค่นี้ แต่เราลืมมองว่ามีเยาวชน มีคนไทย คนใต้ มีศาสนา มีวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก เราต้องแคร์ตรงนั้นหน่อย”               เตรียมปรับลุกส์ตัวเองครั้งใหญ่ บอกไม่อยากมีส่วนทำให้เกิดเหตุอาชญากรรมข่มขืน        “ก็คงต้องมีปรับลุกส์นิดหนึ่ง ปรับให้มันไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา ความจริงใบเตยไม่ได้ห่วงเรื่องอะไร แต่ ห่วงเรื่องอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการข่มขืน เรารู้สึกว่าเรามีส่วนหรือเปล่า เราทำให้ในโลกโซเชียลมันดูอันตรายกับผู้ชายที่มีทาร์เก็ตน่ากลัวอย่างนั้น มากขึ้นหรือเปล่า ก็เลยเป็นห่วงเรื่องนี้ เข้าไปบอกกับทางค่ายเองเลยค่ะ ว่าอัลบั้มใหม่ขอคีปลุกส์มากขึ้น ไม่โป๊เปลือย ไม่เซ็กซ์ซิมโบลเหมือนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะอะไร หลักๆ คือใบเตยจะห่วงเรื่องเยาวชนโดนข่มขืน โดนข่มขืนในที่แปลกๆ บนรถไฟบ้างอะไรบ้าง แล้วส่วนหนึ่งมาจากการที่หนุ่มๆ พวกนี้ดูคลิปโป๊ ดูภาพโป๊ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้แล้ว มันอันตรายกับสังคมไทย"               “ทางผู้ใหญ่ก็โอเคค่ะ เขามองว่าเราก็ผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ได้เรียนรู้ เขาก็เลยบอกโอเค ได้ (ยิ้ม) แต่ความจริง ณ วันนี้ใบเตยปรับได้แล้วนะ ถ้าสังคมรักการที่เราใส่ยาวขนาดนี้ เราก็เชื่อว่าเราปรับได้สบายมาก ณ วันนี้เขาไม่ได้มองที่เราสั้นอย่างเดียว เขามองทุกอย่างในความเป็นใบเตย ในความเป็นตัวตนเรา ดูไอจี เห็นภาพเรา มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาก็คงยอมรับแล้วแหละ อันนี้คือไม่ว่าจะสั้นหรือยาว ใบเตยเชื่อว่าแฟนเพลงรักเราที่เราเป็นเรา ส่วนใหญ่คนจะมองว่าเราคือตัวอย่างเยาวชน เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้เป็นตัวอย่างของเยาวชนค่ะ”               เผยเปลี่ยนแนวมาฟีชเจอร์ริ่งกับศิลปินแห่งชาติ แต่บอกความแซ่บยังเต็มเปี่ยม        “ซึ่งสำหรับอัลบั้มหน้าก็ยังคงมีความแซ่บ มีความเป็นแฟชั่นนิสต้าร์เหมือนเดิม อาจจะยาวขึ้น แต่คงไม่ได้ยาวเหมือนชุดถวายพระพรนะคะ ยาวขึ้นไม่ให้มันดูน่าเกลียด ไม่หวือหวาเหมือนที่ผ่านมา แบบว่าเห็นแก้มก้นหรือว่าเห็นอะไร ที่ มันเยอะมากเกินไป ก็คิดว่าอาจจะต้องเปลี่ยนสโลแกนไม่สั้นเสมอหู อย่าเรียกหนูใบเตยก็ได้นะ (หัวเราะ) อาจจะได้ฉายาใหม่ เพราะคงไม่สั้นเท่าเดิมแล้วค่ะ (ยิ้ม)”               “ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน (ยิ้ม) ที่สำคัญคือมีการฟีช เจอร์ริ่ง แต่ไม่ใช่กับเด็กๆ หรือสาวเซ็กซี่แล้ว แต่เป็นรุ่นใหญ่ นอกค่ายด้วย ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติด้วยค่ะ ท่านนี้เขาแซ่บโดยส่วนตัวอยู่แล้วด้วย แซ่บแน่นอน (ยิ้ม) เป็นแนวแร็พ แดนซ์กระจายเลย สิ้นเดือนนี้จะถ่ายเอ็มวีแล้ว ได้เห็นกันแน่นอน แล้วก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย คือเขาอยากเอาเพลงของเขามาให้คนรุ่นหลังได้ร้องและไม่อยากให้เพลงตายจากไป ท่านว่าอย่างนั้นนะคะ (ยิ้ม)”               บอกกรณีข่าว “กระแต อาร์สยาม” ฟีชเจอร์ริ่งกับ “ธามไท แพลงศิลป์” แต่ไม่ดังเท่าตนกับ “ทรีทูวัน” ในเพลง “แน่นอก” บอกอยู่ที่จังหวะ และถึงให้เลียนแบบยังไงก็ไม่มีทางที่ใครจะทำให้ดังได้เท่าเพลงนั้นอีกแล้ว        “ใบเตยต้องบอกว่าไม่ใช่แค่คนอื่น คือรวมถึงตัวเราเองด้วย นับจากนี้ต่อไปชีวิตจะไม่มีทางสูงได้ถึงแน่นอกอีกแล้ว มัน คือปรากฏการณ์ครั้งเดียวในชีวิต มันคือจังหวะชีวิตที่ไม่มีใครทำได้ มันคือความแปลกใหม่ที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ไม่ว่าใครจะมาทำให้เหมือน ใครจะทำให้ไม่เหมือน หรือว่าใครจะใช้เพลงให้เหมือน มันไม่มีทางได้ เพราะใบเตยมองว่ามันคือลิมิเต็ด แน่นอกมันคือหนึ่งเดียวในชีวิตของหนูที่มันเกินคาดทุกอย่าง มันทำ ให้ศิลปินคนหนึ่งที่ไม่เคยมีค่าอะไรใดๆ ในสังคม ในค่าย ในทุกๆ อย่าง กลายเป็นสินค้าที่ขายดีขึ้นมา ทำให้ลูกทุ่งเปิดกว้าง และรักในความสั้นเสมอหูจากเพลงนั้น ทำให้เราได้เป็นที่ยอมรับของสังคม”               “ณ วันนี้ยังอยากจะกราบเลย เพราะมันทำให้หนูมีรายได้ที่มหาศาล ทำให้ชีวิตดีขึ้นมากๆ ที่สุด อีกอย่างคือมันมาจากความไม่ตั้งใจของพวกเรา เราไม่เคยนึกว่าเพลงนี้จะทะลุล้านวิว จะมีคนคัฟเวอร์เป็นร้อยๆ พันๆ มันคือเพลงที่ได้ครั้งเดียวในชีวิต หนูอัดแค่ 5 นาที ทรีทูวันอัด 15 นาที อัด กันเล่นๆ แต่ปรากฏว่าเปิดมากลายเป็นเพลงพลิกชีวิต ไม่มีใครทำได้เท่านี้อีกแล้วค่ะ อย่างใบเตยมีคติประจำใจเลยว่าหนูจะไม่ขอเหมือนใคร แต่ทำยังไงก็ได้ให้คนอยากเหมือนเรา นี่คือการทำงานในแง่ศิลปินของหนู ความพยายามช่วยไม่ได้ ต่อให้ตั้งใจแค่ไหน อยากจะเหมือนเพลงนี้มากขนาดไหนยังไงก็ไม่ได้ ให้เท่าแน่นอกไม่มีอีกแล้ว”               “หนูมองว่ามันเป็นจังหวะชีวิต เป็นดวงด้วยค่ะ มีเก่งและเฮงผสม หนูมองว่าหนูกับทรีทูวัน ณ วันนั้นเราโนเนมกันทั้งสองฝ่าย แต่พอมาเจอกันมันคือดวงฉุดกัน บวกกับเอ็มวี ทุกอย่างมันคือดวงจริงๆ ค่ะ จะบอกว่าเก่งมากก็ไม่ได้ เพราะเราสองกลุ่มก็ไม่ได้มาจากความเก่งมากเท่าไหร่ แต่มันคือดวงจริงๆ สำคัญที่สุด ไม่เคยคิดเลยว่าดวงตัวเองจะพลิกขนาดนี้ ไม่มีใครคิดว่าจะเคยด้วย ในค่ายไม่มีใครคิดเลย”               “สำหรับอัลบั้มต่อไปใบเตยคุยกับนักแต่งเพลงเลยว่า ไม่ต้องคาดหวังอะไรแล้ว เรามาเกินความคาดหวัง ความคาดหวังของเราสูงสุดมันผ่านมาแล้ว ณ วันนี้ก็ได้แค่คงที่ คงเส้นคงวา ถ้า ฟลุ๊กเหมือนแน่นอกอีกนั่นคือยิ่งกว่าถูกหวยร้อยล้านเลยนะคะ ถ้าจะมีเพลงอย่างนั้นได้อีกในชีวิตก็โชคดี แต่หนูว่ามันก็คงเป็นอะไรที่เรื่อยๆ หรืออาจจะมีกระแสหน่อย หรือาจจะทำให้มีงานเรื่อยๆ คือการเป็นนักร้องต้องมีผลงานออกมาตลอด มันก็จะได้มีงาน มีเงิน มีคอนเสิร์ตจ้าง ถ้าดังหน่อยก็จะได้งานที่หลากหลาย”               ยอมรับมีปัญหากับลูกทุ่งรุ่นน้อง “จ๊ะ คันหู” นงผณี มหาดไทย จริง เหตุด่ากระทบตนบนเวทีว่า “ตอแ-ล” เผยปล่อยให้บริษัทเป็นคนจัดการ แต่บอกมารยาทความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ความเป็นศิลปินไม่มีใครเขาทำกัน        “เอาจริงๆ คือใบเตยไม่เคยมีปัญหากับน้องเลยนะคะ แต่ถามว่าเพราะอะไรทำไมข่าวนี้ถึงกลับมาอีก คือใบเตยก็ไม่ได้ทราบรายละเอียดหลายๆ อย่าง เพราะว่าไม่ได้เจอจ๊ะนานแล้ว แต่ยังสื่อสารกันตลอด แต่เราไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ เพราะเราต่างฝ่ายต่างไม่ได้มีเรื่องอะไรกันอยู่แล้ว แต่สาเหตุหลักๆ คิดว่าน่าจะเป็นเกิดจากการที่น้องเอาเรื่องของเราไปพูดบนเวที ไปเอนเตอร์เทนบนเวที แล้วมีเพจแอนตี้เอาไปลงคลิป ก็เลยทำให้คนเข้าใจผิดค่ะ”               “น้องพูดประมาณว่า อยู่อาร์สยามถ้าไม่ตอแหลเหมือนใบเตยก็อยู่ไม่ได้ ประมาณนี้ค่ะ(ยิ้ม) ก็แรงเนอะ แต่เรื่องนี้ใบเตยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัทค่ะ เพราะบริษัทเขารับทราบถึงเรื่องนี้และเขาก็เห็นว่าไม่เหมาะสม คงได้มีการตักเตือนน้องไปบ้างแล้ว ความจริงใบเตยก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะตัวน้องก็ออกมาพูดว่ามันคือการแสดง แต่ใบเตยอยากให้มองในมุมของความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในค่าย มารยาทบนเวที มารยาทของการเป็นศิลปินที่ดี คือที่ผ่านมาไม่เคยมีศิลปินคนไหนเอาชื่อใครไปพาดพิงบนเวที เหมือนเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินค่ะ มองแค่มุมนั้นมากกว่าว่ามันไม่สมควร เราอยู่ในค่ายอาร์สยาม ไม่ว่าจะเป็นพี่บ่าววี พี่หลวงไก่เราก็นับถือกัน ในเรื่องของการเอาชื่อใครไปพูดบนเวที มันเป็นมารยาทที่ไม่มีใครทำค่ะ จะมองในมุมนั้นมากกว่า"               “ถามว่ามันเป็นสคริปต์หรือเปล่า อันนี้ใบเตยก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่น้องเขาโพสต์เขาก็บอกว่าเป็นการเอนเตอร์เทนบนเวทีค่ะ ใบเตยก็ไม่ได้ดูละเอียดมาก เราก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากหรอก คือเราเจอมามากกว่านี้เยอะไง ก็เลยไม่ได้อะไรมาก ค่อนข้างเข้าใจ แต่เราจะมองในแง่มุมของมารยาทของรุ่นพี่รุ่นน้อง ของคนในค่ายร่วมกันมากกว่าค่ะ แต่จะเป็นการตอกย้ำเรื่องเกาเหลาไหม ก็คงไม่หรอกค่ะ (ยิ้ม)”