วันนี้ (17 ต.ค. ) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น.ส.วรัญณภรณ์ หรือ เกรส วิเชียรรัตน์โชติ อายุ 34 ปี ผู้ก่อตั้งเว็บเพจเฟซบุ๊ก Thai Anti Scam หรือสาวไทยรู้ทันกลลวง เดินทางมายื่นหนังสื่อต่อ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เพื่อประสานความร่วมมือให้ตรวจสอบ Scammer หรือ กลุ่มชาวต่างชาติที่ใช้เฟซบุ๊ก หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ก ในการหลอกหญิงไทยให้หลงเชื่อว่าจะแต่งงานด้วย หรือข้ออ้างต่างๆ นานา ก่อนออกอุบายให้เหยื่อโอนเงินไปให้ตั้งแต่ 10,000 - 6,000,000 บาท ล่าสุด พบผู้เสียหายกว่าร้อยรายเข้ามาปรึกษาหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับการถูกหลอก น.ส.วรัญณภรณ์ เผยว่า เมื่อประมาณิ 3 ปีที่แล้ว ตนตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพประเภทนี้ โดยมีหนุ่มชาวมาเลเซียใช้เฟซบุ๊กติดต่อมาหาตน โดยภาพหน้าเฟซบุ๊กของหนุ่มดังกล่าวใช้รูปชายลักษณะเป็นแขกผิวขาวอายุประมาณ 45 - 50 ปี เริ่มจีบตั้งแต่แรกคุยและขอเป็นแฟน โดยใช้คำหวานๆ ตลอดเวลา เช่น ฮันนี ดาร์ลิง สวีตฮาร์ท เป็นต้น ผ่านไป 5 เดือน เค้าติดต่อมาว่า ได้รับมรดกจากญาติพี่น้องหลายล้านเหรียญ แต่ติดที่ว่าเงินอยู่ในธนาคารที่มาเลเซีย จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนกว่า 2 หมื่นบาท เป็นค่าธรรมเนียมในการเบิกถอนเงิน ตนจึงโอนเงินไปให้ ต่อมาให้โอนเงินไปอีก แต่ตนไม่ยอมโอนเงินให้อีก หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวได้ปิดหนีหายไปเลย ตนจึงหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต พบว่า มีขบวนการหลอกลวงหญิงสาวหรือที่เรียกว่า แก๊ง Scammer และสาวไทยก็ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ส่วนใหญ่พวกนี้จะอ้างตัวเป็นชาวอังกฤษ อเมริกา ชาวไนจีเรีย ชาวมาเลเซีย โปรไฟล์ข้อมูลส่วนตัวดีมาก ส่วนรูปหน้าเฟซบุ๊กจะหารูปชายหนุ่มหน้าตาดี หรือนายทหารที่เกษียณราชการแล้ว ก่อนคุยสักพักจะขอยืมเงิน ส่วนกรณีตนนั้นแก๊งมิจฉาชีพใช้รูป รมว.ประเทศตุรกี ท่านหนึ่ง มาเป็นหน้าเฟซบุ๊ก หลังจากนั้น เริ่มศึกษาวิธีการหลอกลวงของแก๊ง Scammer ก่อนตัดสินใจเปิดเว็บเพจเฟซบุ๊กชื่อ “Thai Anti Scam” เพื่อไม่ให้หญิงไทยตกเป็นเหยื่อเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีสาวไทยเข้ามาดูข้อมูลในเฟซบุ๊กตนจำนวนมาก หลายคนตกเป็นเหยื่อแก๊ง Scammer ถึงขั้นถูกหลอกให้แก้ผ้า และช่วยตัวเองผ่านเว็บแคม จากนั้นแก๊งดังกล่าวจะบันทึกภาพ และนำมาแบล็กเมล์เรียกเงินหลักล้านเลย เลยมายื่นหนังสือถึงดีเอสไอ เพื่อให้ตรวจสอบแก๊งดังกล่าว และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้สาวไทยรู้ทันเหลี่ยมและวิธีหลอกลวง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อด้วย ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ก่อน พร้อมตรวจสอบข้อมูลต่างๆ จากนั้นจะนำเรื่องเข้าพิจารณาว่าเป็นไปตามเงื่อนไข พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ หรือไม่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ดีเอสไอรับเรื่องดังกล่าวไว้หลายรายแล้ว โดยส่วนใหญ่มิจฉาชีพเหล่านี้จะหาช่องทางติดต่อเหยื่อและจะสร้างเรื่องว่าตก หลุมรักสาวไทย และมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินที่จะได้รับมรดก จากนั้นจะให้สาวไทยโอนเงินไปให้ จึงจะสามารถรับมรดกได้ และอ้างเรื่องธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ชักชวนลงทุนด้วย หรือมีการแฮ็กอีเมล์ เข้าไปก่อนใช้เมล์หญิงไทยส่งไปหลอกบรรดาเพื่อนๆ หรือบริษัทต่างๆ เพื่อขอยืมเงิน หรือให้โอนเงินมาให้ |
||||
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น