คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
|
การแข่งขัน เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 เหลืออีกเพียง 1 วันเท่านั้น
ก็จะถึงเวลาปิดฉากอย่างเป็นทางการ
โดยครั้งนี้มีหลายกีฬาที่อาจเรียกได้ว่าไม่ใช่เป็นตัวเต็งในการคว้าเหรียญ
ของเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการเท่าไหร่นัก
แต่สุดท้ายก็ต้องทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปแบบไม่คาดคิด โดยเฉพาะการแข่งขัน
จักรยาน ใครเล่าจะรู้ว่าสามารถเพิ่มเหรียญทองให้กับชาติไทยถึง 2 เหรียญ
และนั่นก็เป็นเวทีแจ้งเกิดให้กับ "อแมนดา คาร์" นักปั่นลูกครึ่ง
ไทย-อเมริกัน ที่คว้าเหรียญทองมาได้ในประเภทจักรยาน บีเอ็มเอกซ์
และเป็นฮีโร่เอเชียนเกมส์คนล่าสุดของประเทศไทย ทีมข่าว MGRsport
ขอนำทุกท่านไปรู้จักเธอให้มากขึ้นกว่าที่เธอซึ่งตลอดเวลาที่เธอให้สัมภาษณ์
จะพูดเป็นสำเนียงอีสาน
นักปั่นวัย 24 ปีรายนี้ ใช้ชีวิตที่ อเมริกา
เป็นส่วนมากและจะมาที่ประเทศไทย ปีละประมาณ 1 ครั้ง โดยจะกลับไปยัง
ต.หนองเม็ก จ.อดุรธานี ซึ่งเป็นบ้านของแม่ "อแมนดา เกิดที่สหรัฐอเมริกา
และใช้ชีวิตที่นั่นมาโดยตลอด แต่ทุกหนึ่งปีจะมาเที่ยวที่ หนองเม็ก
จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ คนในตำบลรู้จัก อแมนดา
แทบทั้งหมด เนื่องจากตอนเด็กๆชอบไปเล่นซน จับหอย จับปู
เดินตามไร่ตามสวนกับเพื่อนคนไทยที่นั่น"
จุดเริ่มต้นในการปั่นจักรยานของ อแมนดา ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนนัก
เธอบอกว่าตอนเด็กชอบจักรยานมาก คุณพ่อ เบียร์โล คาร์
จึงส่งแข่งจนได้แชมป์มาหลายที่ "ตอนเด็กๆ เป็นคนที่ชอบปั่นจักรยานมาก
ไปไหนก็ขี่จักรยานตลอดเวลา เหมือนมีเขาเป็นเพื่อน จนคุณพ่อลองส่งแข่ง
ก็เห็นว่าเราทำได้ จากนั้นก็ไปแข่ง ตามสนาม บีเอ็มเอ็กซ์ทั่วทั้งในยุโรป
และ อเมริกา ซึ่งก็เคยได้แชมป์ในรุ่นเยาวชนมาเยอะพอสมควร"
ส่วนเหตุผลที่เธอตัดสินใจเลือก สวมเสื้อทีมชาติไทย
เนื่องจากไปแข่งขันในรายการระดับประเทศ และเห็นคนใส่เสื้อที่มีธงไตรรงค์
จึงไปขอคุณแม่มาคัดตัว "มันมีช่วงหนึ่ง
เราไปคัดตัวเพื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา แต่ตอนระหว่างแข่งขัน
ประสบปัญหาบาดเจ็บพอดี ก็เลยไม่ติด และต้องพักไป 5-6
เดือนจึงกลับมาแข่งใหม่ตอนนั้นใช้ทุนพ่อแข่งในนาม อิสระ มีอยู่สนามหนึ่ง
อแมนดา จำไม่ได้ว่าที่ไหน เราเจอคนใส่เสื้อทีมชาติไทย
จึงไปขอแม่ว่าจะไปอยู่กับทีมชาติไทยได้มั้ย แม่ก็ให้คิดอยู่ช่วงนึงสุดท้าย
อแมนดาจึงมาคัดตัวให้กับทีมชาติไทย และมาได้ปั่นครั้งแรกในรายการ
เอชียนเกมส์ครั้งที 17"
อแมนดา คาร์ ลงแข่งในนามทีมชาติไทยครั้งแรกในรายการ เอเชียนเกมส์
ครั้งที่ 17 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และสามารถคว้าเหรียญทองได้ทันที
จึงรู้สึกภูมิใจมากที่ทำชื่อเสียงให้กับบ้านเกิดของแม่ "อแมนดา
ภูมิใจมากที่สามารถทำชื่อเสียงให้ประเทศบ้านเกิดของแม่
ส่วนตัวแล้วรักประเทศไทยมาก ทุกๆคนอัธยาศัยดีหมด
ต่อจากนี้ไปก็คิดว่าจะไปแข่งเรื่อยๆเก็บชัยชนะมาให้ประเทศไทยมากขึ้น
เพื่อให้คนทั่วโลกรู้ว่าเราก็มีนักกีฬาเก่งๆหลายชนิเหมือนกัน "
ส่วน ไลฟ์สไตล์ทั่วไปของน่องเหล็กลูกครึ่ง ไทย - อเมริกัน รายนี้
จะใช้ชีวิตแบบ ฝรั่งมากกว่าเนื่องจากใช้ชีวิตที่นั่น "ที่บ้าน
จะเลี้ยงแบบฝรั่งมากกว่า เนื่องจากเราอยู่ที่เมืองนอก
สไตล์การใช้ชีวิตก็จะแตกต่างไปจากเมืองไทย แต่ตนก็สนิทกับ คุณแม่ และ
คุณพ่อ เท่ากัน โดยทั้งสองคนจะมีวิธีการสอนที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ซึ่งก็เป็นวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน แต่ก็รู้สึกดีใจมากๆ
ที่ได้เรียบรู้แบบนี้"
สำหรับเหตุผลที่เธอไม่พูดภาษาไทยกลาง เพราะคุณแม่
สอนให้พูดสำเนียงอีสาน จะได้ไม่ลืมถิ่นกำเนิด ซึ่งเธอก็ชอบอาหารอีสาน
อย่างส้มตำ ปู-ปลาร้า มาก "แม่ อแมนดา เป็นคนอีสาน
เวลาสอนภาษาไทยก็จะสอนอีสานตลอด ที่จริงแม่พูดไทยกลางได้นะ
แต่เขาไม่อยากให้เราลืมถิ่นกำเนิด เราเป็นลูกอีกสานก็ต้องรู้จักภาษาอีสาน
แต่อแมนดา พูดไม่ค่อยได้จะถนัดภาษาอังกฤษมากกว่า
แต่ก็ภูมิใจที่สามารถพูดได้ และชอบกินอาหารไทยมากๆ ที่ชอบที่สุดคือ
ส้มตำปลาร้า แต่ตนไม่กินเผ็ดเท่าคนอีสานแท้ๆ "
สุดท้ายน่องเหล็กอนาคตไกลรายนี้
วางเป้าไว้ว่าจะทำคะแนนเพื่อไปแข่งขัน จักรยาน บีเอ็มเอกซ์ ใน
โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศ บราซิล ในนามทีมชาติไทยให้ได้ "อนาคตตอนนี้
ตั้งเป้าจะไปแข่ง โอลิมปิก 2016 ที่ประเทศ บราซิล ในนามของ
ทีมชาติไทยให้ได้ รู้ว่ามันยากมากๆ ต้องตระเวนแข่งหลายที่ แต่อแมนดา
ก็จะพยายามเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับเมืองไทย ให้ได้"
ทางด้าน นางละมุน คาร์ คุณแม่ของจักยานสาวรายนี้
คิดว่าเธอเลือกไม่ผิดจริงๆ ที่ตัดสินใจให้ลูกเล่นกีฬาในนามทีมชาติไทย
"แม่ภูมิใจในตัวของ อแมนดา มาก
และรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆที่ให้เขาลงแข่งขัน ในนามประเทศไทย
สามารถทำให้คนไทยมีความสุขได้ เท่านี้แม่ก็โอเคที่สุดแล้ว" |
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น