วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

งามหน้า!! “สาวแบงก์ HSBC มาเลเซียและสามีถูกจับ” หลังแอบดูดเงินลูกค้า 4 ผู้โดยสาร MH370 สูญร่วม 110,643 ริงกิต


งามหน้า!! “สาวแบงก์ HSBC มาเลเซียและสามีถูกจับ” หลังแอบดูดเงินลูกค้า 4 ผู้โดยสาร MH370 สูญร่วม 110,643 ริงกิต

  เอเจนซีส์ - พนักงานธนาคาร HSBC วัย 33 ปี และสามีถูกจับกุมในวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) หลังแอบขโมยเงินจากบัญชีของลูกค้าที่เป็นผู้โดยสารเที่ยวบินสูญหาย MH370 จำนวน 4 คน สูญเงินอย่างน้อย 110,643 ริงกิต (35,074.66 ดอลลาร์) และตำรวจมาเลเซียยังออกตามล่าผู้สมรู้ร่วมคิดชาวปากีสถานรับส่วนแบ่งคนที่ 3
       
       สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (16) ว่า เจ้าหน้าที่ธนาคาร HSBC มาเลเซียวัย 33 ปี และสามีที่ทางตำรวจมาเลเซียไม่ได้เปิดเผยชื่อถูกจับกุมวันพฤหัสบดี (14) ที่ผ่านมา หลังผู้จัดการสาขากรุงกัวลัมเปอร์สังเกตเห็นธุรกรรมการเงินผิดปกติ ซึ่งทางธนาคาร HSBC พบความผิดปกตินี้ 5 เดือนหลังจากที่เครื่องบิน MH370 สูญหาย และพบว่าผู้ต้องสงสัยได้ใช้วิธีเคลื่อนย้ายเงินจากบัญชีลูกค้า 3 คนแรกเพื่อไปเข้าบัญชีลูกค้ารายที่ 4 ที่เป็นผู้โดยสารเที่ยวบิน MH370 ด้วยเช่นกัน
       
       บัญชีที่ถูกขโมยเงินไปเป็นของลูกค้าชาวมาเลย์ 2 คน และลูกค้าชาวจีนอีก 2 คนที่ต้องสูญเงินรวมกันไม่ต่ำกว่า 110,643 ริงกิต (35,074.66 ดอลลาร์) นอกจากนี้ทางตำรวจยังพบว่าผู้สมรู้ร่วมคิดชาวปากีสถานคนที่ 3 รับส่วนแบ่งทางออนไลน์
       
       news.com.au รายงานว่า เซนอูดดิน อาห์เหม็ด (Zainuddin Ahmad) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงกัวลัมลาเปอร์แถลงว่า ทางเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าคนร้ายชาวปากีสถานยังคงหลบหนีอยู่ในมาเลเซีย แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อของธนาคารที่พนักงานธนาคารทำงานร่วม 10 ปีก่อนจะทำการทุจริตในครั้งนี้เนื่องจากคดียังคงอยู่ในการสอบสวน “ยังมีเงื่อนงำอีกมาก และในขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน” เซนอูดดินให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
       
       ในขณะที่เดอะมิรเรอร์รายงานว่า พนักงานธนาคาร HSCB วัย 33 ปี ถูกจับกุมที่
       บ้านย่านชานเมืองกรุงกัวลาลัมเปอร์เวลา 16.00 น.เวลาท้องถิ่นในวันพฤหัสบดี (14)หลังจากผู้จัดการสาขากรุงกัวลาลัมเปอร์พบพิรุจธุรกรรมต้องสงสัย และสตาร์ สื่อมาเลเซียรายงานว่า สามีวัย 33 ปีเท่ากัน ได้ถูกรวบตัวได้ที่อู่ซ่อมรถในอัมปัง โดยทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าสามีของพนักงานธนาคารผู้นี้มีส่วนรู้เห็นในการไซฟ่อนเงินของภรรยาด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่เคยมีประวัติการทำผิดมาก่อน และทางตำรวจจะควบคุมตัวคนทั้งคู่้จนถึงวันนี้ (17)
       
       ทั้งนี้ ธนาคาร HSCB สาขากรุงกัวลาลัมเปอร์ รายงานธุรกรรมต้องสงสัยในวันที่ 18 กรกฎาคม ก่อนที่จะเข้าแจ้งความตำรวจวันที่ 2 สิงหาคม รองผู้บัญชาการฝ่ายสอบสวนอีซานี อับดุล กานี (Izany Abdul Ghany) เปิดเผย
       
       จากรายงานพบว่า ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม เป็นต้นมา มีการถอนเงินออกจากบัญชีที่ #4 ของลูกค้าธนาคารครั้งละ 5,000 ริงกิต (1,585.04 ดอลลาร์) ผ่านทางตู้ ATM ต่อวันจนกระทั้งเงินทั้งหมดถูกถอนออกจากบัญชี หลังจากก่อนหน้านั้นพนักงาน HSCB ได้แอบโอนเงินจากบัญชีลูกค้า 3 รายเข้าบัญชีลูกค้ารายที่# 4
       
       นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า มีการโอนเงินจำนวน 11,084.48 ดอลลาร์ ผ่านทางอินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรกเมื่อต้นกรกฎาคม ไปยังบัญชีต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นของหนึ่งในคนร้ายที่ทางตำรวจต้องสืบหาเจ้าของบัญชีต่อไป
       
       “ทางตำรวจกำลังสอบสวนคดีเศรษฐกิจที่มีการแอบเคลื่อนย้ายเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยเจตนากระทำผิด” อีซานีกล่าวผ่านการรายงานของ เดอะ มิเรอร์ และเสริมต่อว่า “ทางตำรวจมาเลเซียได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารเพื่อระบุตัวคนร้าย”
       
       โดยแหล่งข่าวภายในได้เปิดเผยกับสเตรทไทมส์ “เชื่อว่าคนร้ายได้แอบถอนเงินทั้งหมดจากบัญชีลูกค้ารายที่ 4 จากตู้ ATM ที่แคลงแวลเลย์ (Klang Valley) รัฐสลังงอร์  มาเลเซีย
       
       ด้านธนาคาร HSCB ยืนยันกับดิอินดิเพนเดนต์ สื่ออังกฤษว่า พนักงานธนาคารได้ยกยอกเงินจากบัญชีลูกค้าจริง และในขณะนี้นอกจากให้พนักงานผู้นี้หยุดปฎิบัติหน้าที่แล้ว และยังยืนยันเพิ่มเติมว่าบัญชีลูกค้าทั้ง 4 รายที่เป็นชาวมาเลย์ 2 รายและชาวจีนอีก 2 รายนั้น จำนวนเงินฝากในบัญชีจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
       
       นอกจากนี้ทาง HSCB ยังขอโทษต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นไปยังครอบครัวผู้โดยสาร MH370 ที่ได้รับผลกระทบ และยังย้ำว่าทางธนาคารถือว่าความปลอดภัยรักษาบัญชีลูกค้าต้องมาเป็นอันดับแรก และจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น