เฮลท์แคร์แจกโชค - นายชลิต กิติญาณทรัพย์ ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บมจ.มติชน มอบรถจักรยานพับได้ K-Pop ให้แก่นายสมบุญ ทองคำ จากกิจกรรมสอยดาวสุขใจได้บุญ ในงาน มติชนเฮลท์แคร์ 2014 ชีวิตสดใส หัวใจแข็งแรง วันที่สอง ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม
|
"มติชนเฮลท์แคร์"วันที่สองล้นบูธ สธ.แนะกินกระเทียมวันละ 2 กลีบ ป้องกันโรคหัวใจ-ลดคอเลสเตอรอล เผยดื่มชาดับกลิ่นปาก-ต้านอนุมูลอิสระ แม่ค้าชมจัดงานดี-คนมาได้ประโยชน์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนิตยสาร Hospital & Healthcare (ฮอสพิทอล แอนด์ เฮลท์แคร์) หน่วยงานสาธารณสุขระดับประเทศ กรมพลศึกษา พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนชั้นนำ จัดงานมติชนเฮลท์แคร์ ครั้งที่ 6 ภายใต้แนวคิด "ชีวิตสดใส หัวใจแข็งแรง" โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บางส่วนได้มาเข้าแถวรอตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน และในเวลา 14.00 น. มีพิธีเปิดงาน โดยมี นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการเปิดงาน
นพ.ชาญวิทย์กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมที่ให้ความรู้และรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ยังมีคำถามว่าครอบคลุมและยุติธรรมหรือไม่ สิ่งเดียวที่ช่วยได้อย่างยั่งยืน คือ ทุกคน ทุกองค์กรต้องตระหนักอย่างแท้จริงว่าสุขภาพดีต้องเริ่มที่ตัวเอง ตั้งแต่ที่บ้าน ที่ทำงาน ทุกหนแห่ง มีสติระลึกอยู่เสมอว่ากิจกรรมต่างๆ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของตัวเองและคนอื่นอย่างไร พัฒนาพฤติกรรมและตระหนักในการลดความเสี่ยงต่างๆ เท่ากับสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อผลักดันการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ภารกิจสำคัญของกระทรวงสาธารณสุขและทุกภาคส่วนคือร่วมกันส่งเสริมสุขภาพด้านพฤติกรรมและจิตสำนึก
"เราสนับสนุนงานมติชนเฮลท์แคร์ เพราะเป็นช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงความรู้และการบริการสุขภาพ สร้างมาตรฐานทางสุขภาพได้มากขึ้น เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง"
"ธีมงานปีนี้ ชีวิตสดใส หัวใจแข็งแรง เป็นแนวคิดที่ดี ช่วยสร้างความตระหนักเรื่องโรคหัวใจ โรคไม่ติดต่อที่มีความร้ายแรงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ งานครั้งนี้จึงสร้างความรู้และความตระหนักได้เป็นอย่างดี ถือเป็นกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์มาก" รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าว
นายธวัช ถาวรสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า ขอชื่นชมเครือมติชนที่จัดงานมติชนเฮลท์แคร์ขึ้นเพื่อเน้นเรื่องสุขภาพของประชาชน เป็นสิ่งที่ดีที่ดูแลสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก งานนี้จึงเป็นการคืนกำไรให้กับประชาชน ประชาชนเองก็ได้มีโอกาสดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน สุขภาพทั่วไป มีการตรวจสุขภาพ มีหน่วยงานมาออกบูธค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกรมพลศึกษาเองมีส่วนสนับสนุนงบประมาณบางส่วนในการจัดงาน และออกบูธโดยสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา สังกัดกรมพลศึกษามาร่วมกิจกรรม ให้ประชาชนได้วัดการทรงตัวของตัวเอง โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของคนเรา
"หลังจากชมงานรู้สึกว่าประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก เจอคุณป้าคุณยายหน้าลิฟต์ รู้สึกว่าเขามีความสุข เห็นแล้วว่าการจัดงานอย่างนี้ประสบความสำเร็จ ถ้าได้รับการตอบสนองดีแบบนี้ อยากให้เครือมติชนจัดไปตลอด เป็นสิ่งที่ดีมาก คงต้องรีบมาหน่อย อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้ดูแลสุขภาพ จะได้มีโอกาสตรวจสุขภาพ ดูแลเรื่องอาหารการกิน ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ ไม่มีปัญหาให้กับลูกหลานเมื่อเรามีร่างกายแข็งแรง ที่สำคัญคือฟรีตลอดงาน" รองอธิบดีกรมพลศึกษากล่าว
น.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บมจ.มติชน กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 6 ที่เครือมติชนจัดงานมติชนเฮลท์แคร์ขึ้น โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและธุรกิจเอกชนในการสร้างเสริมสุขภาพให้ประชาชนคนไทย ตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมามียอดผู้เข้าชมงานกว่า 2 แสนคน สามารถให้บริการตรวจและรักษาผู้มีปัญหาสุขภาพไปแล้วกว่า 2 หมื่นคน นับได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น เป็นที่ยอมรับในฐานะงานแฟร์สุขภาพอันดับ 1 ที่มีแฟนประจำจำนวนมากเฝ้ารอเข้าร่วมกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น
"ครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ชีวิตสดใส หัวใจแข็งแรง มุ่งไปที่การดูแลสุขภาพหัวใจ โดยเฉพาะเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไม่ติดต่อร้ายแรงที่สำคัญ จากการสำรวจล่าสุด พบว่า คนไทยตายด้วยโรคหัวใจถึงปีละราว 37,000 คน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 2 คน อีกทั้งโรคนี้ยังเป็นสาเหตุที่เกี่ยวพันกับการเกิดโรคอื่นๆ อีกมากมาย จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นที่คนไทยเราจะต้องรู้เท่าทัน ตระหนัก และเตรียมพร้อมรับมือกับโรคนี้อย่างเหมาะสม" น.ส.ปานบัวกล่าว และว่า ปีนี้ได้ย้ายสถานที่จัดงานจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ร่วมชมงานให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สาระประโยชน์และกิจกรรมต่างๆ ในงานยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเพื่อผู้รักสุขภาพเช่นเคย นอกจากการให้บริการตรวจสุขภาพฟรีจาก 12 โรงพยาบาลชั้นนำเป็นจุดเด่นของงานแล้ว ยังจะมีการเช็กอัพสุขภาพแบบครบวงจร มีบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ฟรีวันละ 300 คน และรายการตรวจพิเศษร่วมส่งเสริมการ "ฟิตหัวใจให้แข็งแรง" ทางด้านเวทีก็มีกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพหัวใจ ทั้งเสวนาเรื่องหัวใจกับแพทย์ ดารา คนดัง เวิร์กช็อปสาธิตการทำอาหารสุขภาพและอื่นๆ
น.ส.ปานบัวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ผู้ชมงานยังจะได้ให้สิ่งดีๆ กับสุขภาพไปพร้อมกับสร้างบุญกุศลจากการเลือกซื้อแพคเกจตรวจสุขภาพ ในราคา 500 บาท รายได้มอบให้สภากาชาดไทย และกิจกรรมสอยดาวให้สุขใจได้บุญและลุ้นรางวัลรวมกว่าหมื่นชิ้น รายได้สมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดี นอกจากนี้ภายในงานยังมีสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามอีกมากมายจำหน่ายในราคาพิเศษ และมีพืชผักคนเมืองหลายชนิดมอบให้ผู้มาร่วมชมงานนำกลับไปบ้านอีกด้วย หวังว่างานแฟร์นี้จะช่วยคนไทยได้ตามเจตนารมณ์
จากนั้นเวลา 15.30 น. มีกิจกรรมเฮลท์ตี้ทอล์ก หัวข้อ "ปฏิบัติการต้านโรคหัวใจสู้ภัยโรคเอ็นซีดี (NCD)" โดย พญ.สุวรรณี ตั้งวีระพรพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กระทรวงสาธารณสุข
พญ.สุวรรณีกล่าวว่า เอ็นซีดีคือโรคติดต่อไม่เรื้อรัง หลายคนคิดว่าไม่ได้เป็นง่ายๆ แต่จริงๆ เป็นภัยใกล้ตัว โดยเฉพาะโรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจเส้นเลือดอุดตัน พบได้ในทุกกลุ่มวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ อย่างเด็กหอพัก มักไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย อยู่แต่หน้าจอทีวี กินแต่ขนมขบเคี้ยวก็มีโอกาสพบได้ โดยโรคหัวใจมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 2 เท่า แต่เมื่อป่วยแล้วผู้หญิงจะมีอัตราเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย โรคหัวใจเป็นภัยสาธารณสุขที่ไม่ควรมองข้าม สาเหตุการตายของคนไทยพบว่าโรคหัวใจอยู่อันดับ 3 รองจากมะเร็ง ตายปีละกว่า 3 พันราย และพบว่าเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันสูงสุด ในปี 2555 พบอัตราผู้เสียชีวิต 23.5 คนต่อประชากรแสนคน ปี 2556 มีผู้เสียชีวิต 26.9 คนต่อประชากรแสนคน และครึ่งปี 2557 มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 14 คนต่อประชากรแสนคน ทั้งปีคาดว่าจะมีประมาณ 28.6 คน ที่มีอัตราการตายสูงขึ้นทุกปี เพราะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น มาจากการใช้ชีวิตในภาวะเสี่ยง
พญ.สุวรรณีกล่าวว่า การรณรงค์ให้ดูแลสุขภาพเป็นหลัก ด้วย 3 อ. 2 ส. โดย 3 อ. คือ 1.อาหาร ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เน้นผักผลไม้ที่มีกากใยสูงๆ ควรรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ควรเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารค้างคืน อาหารที่มีรสจัด อาหารหมักดอง และดื่มน้ำสะอาด 2.ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที และ 3.อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ หาวิธีคลายเครียดหรือทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว เช่น ปลูกต้นไม้ เล่นดนตรี วาดภาพ ท่องเที่ยว เป็นต้น รวมทั้งควรพักผ่อนให้พอเพียงวันละ 6-8 ชั่วโมง ส่วน 2 ส. คือ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มสุรา เพราะสิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้ร่างกายทรุดโทรม และการบริโภคไม่ระมัดระวัง รับประทานอาหารไขมันสูง น้ำตาลสูง ย่อมเสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อกลุ่มโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้
"กลุ่มเสี่ยงที่สุด คือ ในกรณีมีประวัติครอบครัวที่มีคนป่วยเป็นโรคหัวใจ รวมทั้งคนที่เป็นเบาหวาน ก็มีโอกาสเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ โดยเฉพาะคนเป็นเบาหวานเสี่ยงมาก เพราะน้ำตาลทำให้เส้นเลือดไม่แข็งแรง จึงถือเป็นปัจจัยเสี่ยง ทั้งนี้สามารถสังเกตอาการง่ายๆ คือ มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกประมาณ 10 นาที เจ็บร้าวบริเวณแขนซ้าย คอ ไหล่ มีเหงื่อออกทั่วร่างกาย เป็นสัญญาณวิกฤตที่ผู้ป่วยจะต้องรีบไปโรงพยาบาลทันทีภายใน 30 นาที แต่ส่วนใหญ่มักชะล่าใจ ไม่รีบไปหาหมอ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต สิ่งสำคัญต้องมาหาแพทย์โดยเร็ว เพราะหากมาทัน แพทย์จะให้ยาขยายหลอดเลือดได้ทันท่วงที ก็จะช่วยชีวิตได้" พญ.สุวรรณีกล่าว
ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กล่าวอีกว่า การป้องกันทำได้โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่กล่าวมา ทั้งลด เลิกสูบบุหรี่-ดื่มเหล้า และหันมาดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทำจิตใจให้แจ่มใสเพื่อลดความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไปตรวจวัดความดัน โรคเบาหวาน และตรวจไขมันว่าสูงหรือไม่ หรือผู้หญิงที่มีรอบเอวเกิน 80 เซนติเมตร ผู้ชายเกิน 90 เซนติเมตร หรือผู้ที่ครอบครัวมีประวัติการตายจากโรคหัวใจ หรือไหลตาย ควรจะไปตรวจคัดกรองโรค เพื่อรักษาและลดการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ รวมถึงโรคภัยอื่นๆ อีกด้วย เพราะสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน โซนที่ได้รับความสนใจไม่แพ้การจัดงานในปีก่อน คือ "เมืองสุขภาพดี เช็กอัพสุขภาพฟรีกับ 12 โรงพยาบาลชั้นนำ" อาทิ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล-กิจกรรมฟิตไม่ฟิต กับฟิตเนส รพ.ศิริราช ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ม.มหิดล การฝังเข็มรักษาโรค การรักษาโรคตามธาตุเจ้าเรือน คณะการแพทย์แผนจีน ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ตรวจวินิจฉัยโรคด้วยการแพทย์แผนจีน (การแมะ) สถาบันปรับโครงสร้างร่างกายอริยะ ตรวจความยืดหยุ่นข้อต่อกระดูกสันหลัง ตรวจแนวความโค้งของกระดูกสันหลัง, โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ตรวจวัดสายตาและจอประสาทตา ตรวจภาวะการเป็นต้อกระจก ต้อหิน และเบาหวานขึ้นตา, โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์) ประเมินความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งทั่วไป คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล-การตรวจเบื้องต้นและให้คำปรึกษาปัญหาภาวะข้อเข่าเสื่อม โรงพยาบาลไทยนครินทร์-ตรวจระดับไขมันในเลือด (คอเรสเตอรอลและไตรีกลีเซอไรด์) ตรวจเลือดที่ปลายนิ้วเพื่อดูภาวะโรคเบาหวาน โรงพยาบาลหัวเฉียว ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ลดอาการปวดด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สภากาชาดไทย ตรวจประเมินการทรงตัว ตรวจวัดกำลังการทรงตัว ประเมินความเสี่ยงในการล้ม, โรงพยาบาลนครธน-ตรวจสุขภาพผิวด้วยสมุนไพร และนวดกดจุดสะท้อนแห้อาการเจาะไขมันปลายนิ้ว และโรงพยาบาลนนทเวช ตรวจภาวะความแข็งแรงของมวลกระดูกและกระดูกพรุน ประเมินคัดกรองความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ
กิจกรรมอื่นๆ บนเวที ได้แก่ เฮลท์ตี้ฟู้ด โดยเชฟอิ๊ก-บรรณ บริบูรณ์ สาธิตการทำสลัดกุ้งแตงกวาญี่ปุ่นอโวคาโด ภารกิจหล่อสวยกับราชเทวีคลินิก เฮลท์ตี้ดีไอวาย โดยนายภคพงศ์ วิเศษสินธุ์ วิทยากรเครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย สาธิต "แกว่งแขน-ออกกำลังกาย ลดพุง ลดโรคหัวใจ" กิจกรรม "หุ่นสวยด้วยยางยืด" โดยนายภุชงค์ บุญรักษ์ และ น.ส.ฉัตรดาว อนุกูลประชา วิทยากรกรมพละศึกษา และเวลา 19.20 น. กิจกรรมจำหน่ายแพคเกจ "สุขภาพดีนาทีทอง 500 บาท"
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุก อาทิ สุขใจได้บุญ ลุ้นรับรางวัลจากสอยดาวกว่าหนึ่งหมื่นรางวัล, ช้อปสนุกเกินคุ้ม สินค้าดีนาทีทอง ราคาชิ้นละ 10 บาท หนังสือจากสำนักพิมพ์มติชนที่ลดราคา 30 เปอร์เซ็นต์ทั้งร้าน ลูกค้า 20 คนแรกในแต่ละวันรับทันทีหนังสือ "ยังหายใจ ต้องไม่แพ้" ของหนุ่มเมืองจันท์ และเมื่อซื้อครบ 300 บาท รับสมุดฉีกฟรี เป็นต้น
นางสมพร อุทัยธรรม อายุ 76 ปี ชาวบ้านย่านสะพานใหม่ กล่าวว่า รู้ข่าวการจัดงานจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ อีกทั้งผู้นำชุมชนมาแจ้งข่าวจึงอยากมาร่วมงาน เพราะมีบริการตรวจสุขภาพจากโรงพยาบาลหลายแห่ง ปีก่อนๆ ไม่ทราบการจัดงาน จึงไม่ได้มาร่วมงาน ส่วนตัวเป็นโรคความดันโลหิตสูงและมีอาการปวดบั้นเอว วันนี้มากับเพื่อนรวม 3 คน ตั้งแต่ก่อนห้างเปิด คิดว่ามาก่อนได้ก่อน ตั้งใจมาตรวจกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
นายเกษม คชงาม อายุ 75 ปี ชาวบางกอกใหญ่ กล่าวว่า ตั้งใจมางานนี้มติชนเฮลท์แคร์โดยเฉพาะ โดยทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์มติชนที่รับเป็นประจำ บางปีไม่ได้มาร่วมงานเพราะไม่ว่าง งานมติชนเฮลท์แคร์เป็นงานแฟร์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลได้ระดับหนึ่ง ส่วนตัวเป็นคนกรุงเทพฯไม่ลำบากเรื่องการเข้าถึงบริการสาธารณสุข แต่งานนี้เป็นประโยชน์กับคนต่างจังหวัดมาก เพราะสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ง่ายขึ้น บางส่วนยังนั่งรถไฟมาจากต่างจังหวัดอีกด้วย ถือเป็นงานการกุศลที่ช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาล และกระจายโอกาสให้คนด้อยโอกาสและคนยากไร้ให้ได้รับบริการสุขภาพราคาไม่แพง งานนี้จึงเหมือนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ส่วนตัวไม่มีโรคประจำตัวจึงไม่เจาะจงว่าจะตรวจโรคใด ตั้งใจมาอีกครั้งวันอาทิตย์ คิดว่าประชาชนจะเข้าร่วมงานจำนวนมากเหมือนปีก่อนๆ
น.ส.พัทธมน จิตระจินดา พนักงานองค์การมหาชน อายุ 26 ปี กล่าวว่า ทราบข่าวการจัดงานจากเว็บไซต์ สาเหตุที่ตัดสินใจมาร่วมงานเพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่ค่อยมีเวลาว่างไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ส่วนตัวไม่มีโรคประจำตัว แต่เมื่อครั้งที่พาญาติผู้ใหญ่ไปพบแพทย์ได้เห็นภาพที่หดหู่ จึงตระหนักว่าเราต้องดูแลตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะยังไม่ป่วยเป็นโรคใดก็ตาม กลัวโรคมะเร็งจากภาวะการทำงานที่เคร่งเครียด บวกกับมลภาวะ จึงมางานเพื่อรู้วิธีป้องกันและดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะพาแม่มางานเพื่อตรวจสุขภาพและรับบริการ ส่วนตัวสนใจโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)
สำหรับงาน "มติชนเฮลท์แคร์ 2014 ชีวิตสดใส หัวใจแข็งแรง" จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21-24 สิงหาคม ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว
.......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น