“สหรัฐอเมริกา จะยังคงทำในสิ่งที่พวกเราต้องทำ เพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชนของเรา พวกเราจะเฝ้าระมัดระวัง และจะไม่ย่อท้อ”
เป็นคำกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังของ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา หลังจากกลุ่ม ‘ไอซิส’ เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดโหด ‘ฆ่าตัดหัว’ เจมส์ โฟลีย์ นักข่าวอเมริกันวัย 40 ปี ที่หายตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน ระหว่างเข้าไปทำข่าวสงครามกลางเมืองในซีเรีย
นักวิเคราะห์มองว่า การเผยแพร่คลิปวิดีโอสะเทือนขวัญ ผ่านทางยูทูบ เมื่อวันอังคารที่ 19 ส.ค. เป็นแผน ‘ประชาสัมพันธ์ หรือโฆษณาชวนเชื่อ’ ของกลุ่มไอซิส เพื่อต้องการประกาศให้โลกรู้ถึงความเหี้ยมโหดของพวกตน
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ชื่อเสียงของกลุ่มไอซิส โด่งดังไปทั่วโลก นับตั้งแต่บุกยึดเมืองต่างๆ ในอิรักได้อย่างรวดเร็วแบบสายฟ้าแลบ จนรัฐบาลอิรักตั้งตัวไม่ติด กระทั่งรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา จำต้องยื่นมือมาช่วยสั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของกลุ่มไอซิส ทางภาคเหนือของอิรัก ในช่วงต้นเดือนส.ค. ที่ผ่านมา
แต่ไม่ว่ากลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่หัวรุนแรงกลุ่มนี้ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเรียกขานตัวเองมาแล้วหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์ (ไอซิล) หรือรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (ไอซิส) จนล่าสุด เหลือเพียงแค่ชื่อ ‘รัฐอิสลาม’ หรือ ไอเอส แต่ดูเหมือนความเหี้ยมโหดไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย
ในช่วงไม่ถึง 3 เดือน ชาวโลกได้เห็นศักยภาพของกลุ่มไอซิส ซึ่งมีฐานใหญ่อยู่ในซีเรียกันเป็นอย่างดี ว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ มีความโหดในระดับไม่ธรรมดา !!
กระทั่งล่าสุด คือการเผยแพร่คลิปวิดีโอ นาทีสังหารเจมส์ โฟลีย์ ผู้สื่อข่าวอเมริกัน เพื่อเป็นการแก้แค้นรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งโจมตีทางอากาศถล่มพวกตน ที่กำลังยึดครองเมืองต่างๆ ทางภาคเหนือของอิรัก
ที่สำคัญ กลุ่มไอซิส ทำ ‘การบ้าน’ กันมาดีมาก ที่จะ ‘ฉีกหน้า’ และสร้างความสะเทือนขวัญให้กับชาวอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นชุดนักโทษสีส้ม ที่นำมาให้เจมส์ โฟลีย์สวมใส่นั้น ก็เป็นชุดที่ทางการสหรัฐฯ ใช้กับนักโทษสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย ที่เรือนจำบนอ่าวกวนตานาโม
การบังคับให้เจมส์ โฟลีย์ อ่านข้อความที่พวกตนเขียนขึ้นมา ขณะนั่งคุกเข่าอยู่ข้างมือเพชฌฆาต ที่สวมชุดสีดำสนิทและคลุมหน้าด้วยไอ้โม่ง ก่อนจะถูกสังหารว่า “ฆาตกรที่แท้จริง คือ อเมริกา” ถือเป็นคำพูดที่หวังจะทำให้ชาวอเมริกันเกิดความละอายใจ
กระทั่งมาถึง ‘ไม้เด็ด’ ส่งท้าย ที่กลุ่มไอซิส กะจะทำร้ายจิตใจชาวอเมริกัน ให้ ‘เจ็บไปถึงก้นบึ้ง’ คือ การเลือกฆาตกรมาทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตนั้น อาจเป็นชาวอังกฤษ ซึ่งถือเป็นประเทศพันธมิตรแนบแน่นของสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน ต้องยกเลิกการไปพักร้อนที่เมืองคอร์นวอลล์ รีบนั่งรถยนต์บึ่งกลับมากรุงลอนดอนทันที เพื่อมาร่วมประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ด้านมหาดไทยและนายฟิลิป แฮมมอนด์ รมว.ต่างประเทศ เมื่อเจ้าหน้าที่การข่าวสงสัยว่า ฆาตกรที่ลงมือฆ่าตัดหัวชาวอเมริกันนั้น ดูเหมือนจะเป็นชาวอังกฤษ!!
เรียกว่า งานนี้ กลุ่มไอซิส วางหมากซับซ้อน เพราะต้องการแสดงให้ชาวอเมริกันและชาวโลกรู้ด้วยว่า มีคนหนุ่มมุสลิม แต่ถือสัญชาติของประเทศในยุโรปเป็นจำนวนมาก มาเข้าร่วมกับกลุ่มไอซิส เพื่อทำสงครามสู้รบในซีเรียและอิรัก
นักวิเคราะห์ยังชี้ว่า การฆ่าตัดหัว โฟลีย์ ถือเป็นการส่งสารของกลุ่มไอซิสถึงอเมริกาโดยตรง พร้อมกันนั้น ยังเป็นการเตือนไปถึงอังกฤษด้วยเช่นกัน เพราะเหตุการณ์ ลี ริกบีย์ ทหารหนุ่มอังกฤษ ถูกนักรบญิฮาด 2 คน สังหารกลางถนนทางตอนใต้กรุงลอนดอน เมื่อปีที่แล้วนั้น ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลอยๆ
เพราะนับตั้งแต่สหรัฐฯ นำชาติพันธมิตรทำสงครามปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย หลังกลุ่มอัลกออิดะห์ ส่งสมาชิกขับเครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 11 เดือน ก.ย.2544 แล้ว ไม่ใช่ชาวสหรัฐฯ เท่านั้น ที่เสี่ยงต่อการจะต้องเผชิญกับเหตุวินาศกรรม แต่ชาวอังกฤษและชาวยุโรป ก็เสี่ยงจะตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายด้วยเช่นกัน
อีกทั้ง การก่อตัวขึ้นมาของนักรบกลุ่มไอซิสในเวลาไม่นาน ด้วยอุดมการณ์ต้องการจัดตั้งรัฐอิสลาม และมีความเกลียดชังสหรัฐฯ จนเข้ากระดูก ยังถือเป็นตัวแทนความโหดของกลุ่มอัลกออิดะห์ได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่เจมส์ โฟลีย์จะถูกสังหาร กลุ่มไอซิส ยังตั้งโจทย์ให้ โอบามา ในฐานะผู้นำสหรัฐฯ ต้องหาทางแก้อีกด้วย โดยขู่จะตัดศีรษะ ‘สตีเว่น ซ็อตลอฟฟ์’ นักข่าวชาวอเมริกันอีกคนหนึ่ง ที่ถูกกลุ่มไอซิสจับเป็นตัวประกัน ถ้าหากสหรัฐฯ ยังไม่หยุดโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายของกลุ่มไอซิส ทางภาคเหนืออิรัก!!
‘ซ็อตลอฟฟ์ จะมีชีวิตอยู่หรือตาย ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของโอบามา’ สมาชิกกลุ่มไอซิส ซึ่งเป็นผู้ลงมือสังหารเจมส์ โฟลีย์ กล่าวในคลิปวิดีโอ ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกมายอมรับด้วยว่าที่ผ่านมา ได้พยายามส่งทหารภาคพื้นดินและปฏิบัติการทางอากาศเพื่อช่วยเหลือบรรดาตัวประกัน และนักข่าวอเมริกัน รวมถึงเจมส์ โฟลีย์ ที่ถูกกลุ่มไอซิสจับเป็นตัวประกันไว้ในประเทศซีเรียมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวมาโดยตลอด
เป็นคำขู่ที่กลุ่มไอซิส กำลังทำให้ประธานาธิบดีโอบามา ต้องคิดหนักมากขึ้น ว่าจะหาวิธีหยุดยั้งกลุ่มไอซิสอย่างไรดี ??? ขณะที่ กองกำลังสหรัฐฯ ยังคงส่งเครื่องบินรบลำแล้วลำเล่า ทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS George H W.Bush ในอ่าวเปอร์เซีย ดำเนินปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มไอซิส ทางภาคเหนือของอิรักต่อไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น