VIDEO VIDEO เอเอฟพี - เด็กหญิงวัย 9 ขวบที่กำลังเรียนรู้การใช้ปืนกลอูซี ทานแรงถีบของปืนไม่ไหว พลาดยิงครูผู้สอนเสียชีวิตที่สนามยิงปืนแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ อุบัติเหตุอันน่าสลดที่กระตุ้นข้อถกเถียงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธปืนในประเทศแห่งนี้เพิ่มเติม สำนักงานนายอำเภอท้องถิ่นเปิดเผยว่า เหตุการณ์อันน่าสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (25) ณ ลาสต์ สต็อป รีสอร์ตข้างถนนในรัฐแอริโซนา ทางภาคตะวันตกของสหรัฐฯ ต่อหน้าต่อตาพ่อแม่ของหนูน้อยที่พาเธอไปฝึกยิงปืน ในตอนแรกเด็กหญิงตัวเล็กๆ รายนี้ผ่านพ้นการฝึกควบคุมอาวุธเกรดทหารในการยิงเป้าแบบทีละนัด แต่พอชาร์ลส์ วาคกา ครูผู้สอน ปรับเปลี่ยนปืนอูซี เข้าสู่โหมดอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ แรงถีบทำให้ปืนสะบัดขึ้นและกระสุนลูกหลงนัดหนึ่งจากการยิงของหนูน้อยก็พุ่งเจาะที่ศีรษะของวาคกาอย่างจัง ถ้อยแถลงของสำนักงานนายอำเภอโมแฮฟ เคาน์ตี ระบุว่า “วาคกายืนให้คำแนะนำถึงวิธีการใช้อาวุธอยู่ข้างๆ เด็กตอนที่อุบัติเหตุเกิดขึ้น จากการสืบสวนเพิ่มเติมได้ข้อสรุปว่าเด็กหญิงเหนี่ยวไกปืนกลอูซี แรงถีบทำให้ปืนสะบัดขึ้นเหนือศีรษของเธอ และเหยื่อถูกยิง” จากนั้นนายวาคกา ได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภายในระยะเวลาไม่นานนัก ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เผยแพร่วิดีโอของโศกนาฏกรรมระหว่างการฝึกยิงปืนครั้งนี้ที่บันทึกภาพไว้ได้โดยพ่อแม่ของเด็กหญิง แต่มีการตัดต่อตอนที่ครูถูกยิงออกไป
ในวิดีโอเผยให้เห็นว่า ครูผู้ฝึกยืนอยู่ทางซ้ายมือของเด็กหญิง และสอนการตั้งท่าที่ถูกต้องทั้งแขนและเท้าสำหรับยิงปืน จากนั้นเธอยิงปืนออกมาหนึ่งนัด ด้วยพบเห็นแรงถีบของปืนแค่เล็กน้อย “ทีนี้ลองอีกนัด นั่นแหละถูกต้อง” ครูผู้สอนบอกเธอ จากนั้นก็ปรับปืนสู่โหมดอัตโนมัติ และช่วงสุดท้ายของวิดีโอได้ยินเสียงปืนกลดังขึ้นเป็นชุดและแรงถีบของปืน ทำปากกระบอกปืนสะบัดขึ้นเข้าหาครูผู้สอน ผู้จัดการของสนามยิงปืนดังกล่าวให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซีนิวส์ว่า ที่ลาสต์ สต็อป เริ่มฝึกยิงปืนให้แก่เด็กๆ อายุตั้งแต่ 8 ขวบขึ้นไป ขณะที่การสอนยิงปืนที่สนามยิงปืนอื่นๆ ในสหรัฐฯ ชาติที่มีจำนวนอาวุธปืนต่อคนสูงที่สุดในโลก เริ่มสอนยิงปืนแก่เด็กตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เหตุการณ์ที่น่าสลดนี้เรียกปฏิกิริยาอย่างทันทีจากกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ต้องการให้ปรับแก้กฎหมายสิทธิการครอบครองอาวุธปืนให้เข้มข้นยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นได้แก่ ลิซซี อุลเมอร์ จากองค์กรอิสระ Moms Demand Action For Gun Sense In America ซึ่งก่อขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนประถมแซนดีฮุก บอกว่ามันควรเป็นเสียงปลุกที่ทำให้ทุกคนตื่นเสียที “เราหวังว่ากรณีนี้จะนำมาสู่การพิจารณาหารือระดับชาติเกี่ยวกับเด็กและปืน” เธอกล่าว ส่วน ลอรา คูติเลตตา นักกฎหมายจากศูนย์กฎหมายเพื่อปกป้องความรุนแรงจากอาวุธปืนในซานฟรานซิสโก บอกว่า “โศกนาฏกรรมนี้ได้รับการสำเสนอข่าวอย่างครึกโครมอย่างที่มันควรจะเป็น แต่อย่าลืมว่ามีเยาวชนอายุ 18 และคนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 24 ปี ที่ต้องมาจบชีวิตในแต่ละวันในอเมริกา สืบเนื่องจากกฎหมายอาวุธปืนที่อ่อนแอของเรา และเราก็รู้ด้วยว่าในสหรัฐฯ มีเด็กวัย18 ปี ราว 1.69 ล้านคนที่พักอาศัยในบ้านซึ่งมีอาวุธปืนปลดล็อคทิ้งไว้ มันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น