วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สารคลอรอกซ์ในน้ำยาล้างห้องน้ำ และ แอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้ออีโบลาได้

ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส จุฬาฯ เผยสารคลอรอกซ์ในน้ำยาล้างห้องน้ำ และ แอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้ออีโบลาได้ ระบุต้นเหตุการระบาดครั้งนี้มาจากเด็ก 2 ขวบ
น้ำยาล้างห้องน้ำ-แอลกอฮอล์ ฆ่าเชื้ออีโบลาได้
        วันนี้ (23 ส.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงโรคอีโบลา ในงานมติชน Health Care 2014 ดูแลสุขภาพ ว่า การระบาดของโรคอีโบลามีมานานแล้วกว่า 20 ครั้ง ในรอบ 40 ปี ส่วนมากระบาดในแถบตอนกลางของทวีปแอฟริกา มีผู้ป่วยเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่การระบาดในครั้งนี้กลับระบาดเป็นวงกว้าง มีรายงานจากองค์การอนามัยโลก พบผู้ป่วยรวมแล้ว 2,000 กว่าราย เสียชีวิต 1,000 กว่าราย ต้นกำเนิดการระบาดในครั้งนี้มาจากเด็กอายุ 2 ขวบ ที่ประเทศกินี เมื่อ ธ.ค. 2556 ไม่ใช่เริ่มระบาดเมื่อตอน มี.ค. 2557 แต่อย่างใด จากนั้นจึงติดไปยังแม่ พี่สาว ญาติ และคนในสังคมเรื่อยๆ
      
        ศ.นพ.ยง กล่าวว่า การควบคุมโรคเป็นไปได้ยาก เนื่องจากวัฒนธรรมของชาวแอฟริกามักจะล้างศพด้วยมือเปล่า ไม่มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันตัว นอกจากนี้ ยังมีการล่าและกินสัตว์ป่าอย่างค้างคาว และลิง ซึ่งเป็นแหล่งรังโรคอีโบลา เป็นต้น สำหรับการรักษานั้น ยังไม่มียาและวัคซีนโดยเฉพาะ ส่วนยาซีแมปที่ใช้รักษาผู้ป่วยอีโบลานั้น จากการทดลองในสัตว์พบว่า ให้ยาซีแมปในลิง 7 ตัว ช่วยให้ลิงรอดชีวิต 3 ตัวจากเชื้ออีโบลา และตาย 4 ตัว แต่หากไม่มีการให้ยาจะตายทั้งหมด ทั้งนี้ เชื้ออีโบลาสามารถฆ่าได้ด้วยสารคลอรอกซ์ (Chlorox) ซึ่งเป็นคลอรีนที่มีกลิ่นฉุน โดยสารนี้จะอยู่ในน้ำยาล้างห้องน้ำ ส่วนแอลกอฮอล์ก็สามารถฆ่าเชื้ออีโบลาได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยถือว่ามีความเสี่ยงต่ำต่อการระบาดของเชื้ออีโบลา ประชาชนจึงไม่ควรตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ
      
        “ขณะนี้มาตรการรักษาความสะอาดพื้นที่ต่างๆ ใช้เพียงน้ำยาล้างห้องน้ำ รวมถึงใช้แอลกอฮอล์ ล้างมือก็สามารถฆ่าเชื้ออีโบลาได้” ศ.นพ.ยง กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น