วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ผู้ต้องหาฆ่า “สุทิน” แกนนำ กปท.โรคหอบกำเริบเสียชีวิตคาคุก



คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ผู้ต้องหาฆ่า “สุทิน” แกนนำ กปท.โรคหอบกำเริบเสียชีวิตคาคุก
นายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาร่วมกันยิงนายสุทิน เสียชีวิตระหว่างขึ้นรถปราศรัยต่อต้านการเลือกตั้ง ย่านบางนา ช่วงการชุมนุม กปปส.

อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยผู้ต้องหาฆ่า “สุทิน” แกนนำ กปท. เสียชีวิตแล้วในคุกเพราะโรคประจำตัว ยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย พร้อมส่งพิสูจน์ซ้ำเพื่อสรุปผลจำหน่ายคดี
      
       วันนี้ (29 ส.ค.) นายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายสุรกริช ชัยมงคล ผู้ต้องหาคดียิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กคป.) เสียชีวิตระหว่างปราศรัยอยู่บนรถย่านถนนบางนา-ตราด เมื่อเดือนมกราคม 2557 ได้เสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่า ตนได้รับรายงานจากนายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ว่านายสุกริชเสียชีวิตจริงเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหามีอาการป่วยเป็นโรคหอบหืดและหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงนำตัวไปส่งที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. นายสุกริช ได้เสียชีวิต ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหามีโรคประจำตัวคือเบาหวาน และหอบหืดอยู่แล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้ต้องหาไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด หลังจากนี้ต้องมีการตรวจพิสูจน์ศพ เนื่องจากผู้ต้องหาตายผิดธรรมชาติ คือตายในระหว่างถูกควบคุมตัวของเรือนจำ โดยพนักงานสอบสวน อัยการ แพทย์ และฝ่ายปกครองจะร่วมกันชันสูตรเพื่อสรุปผลการเสียชีวิตที่ชัดเจนก่อนส่งศพไปให้กับแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจสรุปหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
      
       อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เคลื่อนย้ายศพออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว โดยมีรถมูลนิธิฯ มารับไปส่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์อีกครั้ง หลังจากนั้นในส่วนของกรมราชทัณฑ์จะรอผลการไต่สวนการเสียชีวิตจากพนักงานสอบสวน และรอคำสั่งศาลว่าผู้ต้องหาเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดก่อนจะจำหน่ายคดีออกจากระบบ
      
       ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นายสุรกริชถูกส่งตัวเข้ารักษาอาการโรคประจำตัวกำเริบ โดยมีอาการหายใจไม่ออกจากโรคหอบหืดตั้งแต่ช่วงบ่าย ก่อนที่จะเสียชีวิตในช่วงเย็นวันเดียวกัน และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นายสุรกริชมีอาการป่วยกำเริบ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติถูกส่งตัวเข้ารักษาระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในระหว่างที่นายสุรกริชถูกควบคุมตัวภายในเรือนจำนั้นไม่มีปัญหากับเพื่อนผู้ต้องขัง และไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ ทั้งสิ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น